คำว่า 'Marketing 5.0' มาจากชื่อหนังสือ Marketing 5.0 : Technology for Humanity โดย Philip Kotler, Hermawan Kartajaya และ Iwan Setiawan เป็นแนวทางใหม่ล่าสุดของการตลาดในยุคสมัยที่เทคโนโลยีติดสปีดมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพิ่มทางเลือกใหม่ๆ ให้นักการตลาดในปัจจุบันก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ ที่เคยมี จึงเข้าใจลูกค้าได้ละเอียดลึกซึ้งยิ่งขึ้น และออกแบบประสบการณ์ที่ตรงใจและพึงพอใจมากกว่าที่เคย
ยุคสมัยของการตลาด ก่อนจะบอกว่า Marketing 5.0 คืออะไร เรามาย้อนทำความเข้าใจแนวทางการตลาดในอดีตกันก่อนว่า ข้อจำกัดด้านการสื่อสาร ศักยภาพของเทคโนโลยี สภาพเศรษฐกิจและความสนใจของผู้คนสังคม เป็นปัจจัยที่ทำให้แต่ละยุคสมัยนักการตลาดให้ความสำคัญต่อสิ่งต่างๆ ไม่เหมือนกัน โดยมีทิศทางพัฒนาการแนวคิดที่มุ่งเข้าสู่พฤติกรรมมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ
Marketing 1.0 - Product Centric เน้นการพัฒนาคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ วัดกันว่าของยี่ห้อไหนดีกว่า เยอะกว่า ถูกกว่า ใช้ได้นานกว่า พกพาง่ายกว่า ฯลฯ
Marketing 2.0 - Customer Centric เน้นความต้องการของลูกค้า จัดกลุ่มผู้คนที่มีความต้องการแตกต่างกัน แบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ตรงใจที่สุด
Marketing 3.0 - Human Centric เน้นคุณค่าที่ยึดถือ สื่อสารเกี่ยวกับความเชื่อของแบรนด์ แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อโลก สังคมและสิ่งแวดล้อมรอบตัว
Marketing 4.0 - Traditional to Digital เน้นการผสมผสานระหว่างประสบการณ์แบบเดิมที่จับต้องได้ เข้ากับประสบการณ์ออนไลน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อของ omnichannel
Marketing 5.0 - เปรียบเหมือนการนำ Marketing 3.0 ซึ่งเน้นความเข้าใจมนุษย์ กับ Marketing 4.0
ที่เน้นดิจิทัลไลฟ์สไตล์ มารวมกันเป็นการตลาดที่นำเอาเทคโนโลยีมาใช้ทำความเข้าใจมนุษย์ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นนั่นเอง
ที่มาที่ไปของ Marketing 5.0 ปัจจุบันเรามักได้ยินคำว่า ฐานข้อมูล (Database) หรือ Big Data มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะในยุคสมัยที่การซื้อขายเกิดขึ้นผ่านระบบดิจิทัล เพียงสัมผัสหน้าจอสมาร์ทโฟน ก็สามารถเลือกสินค้า อ่านรีวิว ทำรายการสั่งซื้อ จ่ายเงินได้ภายในไม่กี่นาที พฤติกรรมการกดชมโฆษณา ซูมดูรายละเอียดสิ่งของ ระยะเวลาที่ใช้อ่านเนื้อหา ประสบการณ์ทั้งหมดทั้งมวลในโลกออนไลน์ ล้วนถูกบันทึก สะสมไว้ในรูปแบบของรหัสนับล้านล้าน เมื่อนำมารวมกันข้อมูลเหล่านี้อาจบ่งบอกพฤติกรรมของเราได้มากกว่าที่เราจะอธิบายตัวเองได้เสียอีก
แนวคิดเกี่ยวกับการตลาดนั้นพัฒนาไปพร้อมกับเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก ความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ชิปที่มีขนาดเล็กลง กลไกในการประมวลผลที่ฉับไวขึ้น ทำให้เกิดอุปกรณ์ใหม่ๆ หนทางใหม่ๆ ที่จะสร้างประสบการณ์อันตรงใจให้แก่ลูกค้า (Customer Experience) ตอบสนองความต้องการของแต่ละคนได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง แต่น่าประทับใจยิ่งขึ้น ผ่านระบบอัตโนมัติ (Automation)
หากจะอธิบายสิ่งที่กล่าวมา ให้ง่ายที่สุด เราอาจใช้สมการข้างล่างนี้ย่นย่อความหมายของแนวคิดการตลาดในปัจจุบันออกมาได้ ดังนี้
Marketing 5.0 มีองค์ประกอบหลัก 5 อย่างที่ต้องทำงานสอดประสานกัน โดยมี Big Data และ Data Platform เป็นฐานรองรับ
1. Data Driven Marketing
ข้อมูลคือ พื้นฐานสำคัญที่ช่วยทำให้การตัดสินใจแม่นยำ ถูกต้องมากขึ้น การเก็บข้อมูลทุกอย่างโดยละเอียด ไม่ว่าจะเป็นสินค้าขายดี สินค้าค้างสต๊อก คำค้นหาสินค้า พฤติกรรมการใช้ชีวิตของลูกค้า การใช้งานเว็บไซต์ การใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ทุกอย่างจะต้องมีการจัดเก็บอย่างเป็นระบบ
วางโครงสร้างพื้นฐานในองค์กรเพื่อรองรับข้อมูลจำนวนมหาศาลที่มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ปัจจุบันมีเครื่องมือหลากหลายรูปแบบที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการติดตามข้อมูลลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นระบบ Customer relationship management: CRM, Salesforce, Salespage, Google Analytics, Facebook Pixel และอื่นๆ อีกมากมายที่จะช่วยให้นักการตลาดดิจิทัล เพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการวิเคราะห์ และพัฒนาประสบการณ์เดิม หรือสร้างประสบการณ์ใหม่ได้ราวกับเข้าไปนั่งในใจของลูกค้า
Marketing 5.0 เทคโนโลยีจะช่วยเพิ่มความเป็นมนุษย์ให้การตลาดดิจิทัลได้อย่างไร? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://techwealth99.com/