แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - siritidaphon

หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 19
226
เชื่อว่าหลายๆท่านคงเคยจัดฟัน หรือกำลังจัดฟันอยู่ก็ตาม มักจะประสบปัญหาที่คล้ายๆกันคือ แปรงฟันไม่สะอาด ดูแลสุขภาพช่องปากยาก เศษอาหารติดตามอุปกรณ์จัดฟันทำความสะอาดไม่หมด และอื่นๆอีกมากมายที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดฟัน ทำให้อาจจะเกิดปัญหาอื่นๆที่เกี่ยวกับกับฟันหรือเหงือกตามมาหลังจากที่ถอดอุปกรณ์จัดฟันออก หรือในขณะที่กำลังใส่อุปกรณ์จัดฟันอยู่ก็เป็นได้

ซึ่งในวันนี้ทางด้านของ Clinic เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว เลยจะนำวิธีแปรงฟันที่ถูกต้องในขณะที่จัดฟันมาบอก เพื่อป้องกันปัญหาอื่นๆที่จะตามมา เช่นฟันผุ เหงือกอักเสบ เป็นต้น ส่วนวิธีการแปรงฟันสำหรับผู้ที่จัดฟันนั้นเป็นอย่างไร ลองไปอ่านกันดูดังต่อไปนี้

 
1.    เคล็ดไม่ลับ แปรงฟันให้สะอาดในขณะจัดฟัน

ถ้าหากว่าจะให้พูดกันจริงๆแล้ว การแปรงฟันให้สะอาดสำหรับคนที่กำลังจัดฟันนั้นไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใดเลย แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็ คือความเข้าใจรวมถึงใส่ใจถึงที่มาของปัญหาและระเบียบวินัยในตัวเองนั่นเอง

ก่อนอื่นเลยท่านต้องทราบด้วยว่าปัญหาเกี่ยวกับฟันและเหงือกของผู้ที่ใส่อุปกรณ์จัดฟันนั้นหลักๆเลยเป็นเพราะ เศษอาหารที่ทำความสะอาดออกไม่หมด ก่อให้เกิดฟันผุและปัญหาสุขภาพช่องปากตามมามากมาย แต่การกำจัดเศษอาหารเหล่านี้มีวิธีง่ายๆมากมาย ดังต่อไปนี้

 
2.    แปรงฟันให้เป็นและถูกต้อง

หลายๆคนคงจะมีปัญหามากๆ ในการแปรงฟันเมื่อใส่อุปกรณ์จัดฟัน ซึ่งถ้าอุปกรณ์จัดฟันนั้นเป็นแบบลวดจะทำให้ท่านแปรงฟันยากขึ้นกว่าปกติเป็นอย่างมาก จึงควรเพิ่มระยะเวลาในการแปรงฟันจากที่คนทั่วไปจะแปรงอยู่ที่ 2 นาที หากใส่อุปกรณ์จัดฟัน ควรเพิ่มเวลาการแปรงฟันเป็น 3-4 นาที เป็นอย่างน้อย โดยให้ทำการหมุนวนแปรงสีฟันที่บริเวณลวดจัดฟันอย่างน้อย 5 รอบต่อ 1 ซี่ฟัน โดยทำมุม 45 องศา และใช้การปัดปลายขนแปรงย่อยๆ ถ้าหากว่าเป็นการแปรงฟันด้านฟันบดเคี้ยวให้ขยับแปรงสีฟันเข้าออกตามแนวฟันกรามเพื่อกำจัดเศษคราบอาหารและแบคทีเรียต่างๆ


3.    เลือกแปรงสีฟันให้ถูกต้องและเหมาะสม

การเลือกแปรงสีฟันถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมากๆในการรักษาสุขภาพช่องปาก ซึ่งในสมัยนี้มีแปรงสีฟันขนาดเล็กคล้ายๆแปรงล้างขวด ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า แปรงซอกฟัน ซึ่งเป็นแปรงขนาดเล็กเหมาะสำหรับผู้ที่ใส่อุปกรณ์จัดฟันเป็นอย่างยิ่ง โดยใช้ทำความสะอาดแบร็คเก็ตในส่วนที่คิดว่าแปรงสีฟันแบบธรรมดาไม่สามารถเข้าถึงได้ ก็จะช่วยให้กำจัดเศษอาหารที่ติดระหว่างอุปกรณ์จัดฟันและฟันได้ง่ายขึ้นอีกด้วย


4.    ไหมขัดฟันยังจำเป็นเสมอ

หนึ่งในตัวช่วยที่ดีที่สุดสำหรับคนทั่วไป และจำเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่ทำการจัดฟันโดยใส่อุปกรณ์จัดฟันแบบถอดไม่ได้ เพราะไหมขัดฟันนั้นสามารถที่จะกำจัดเศษอาหารต่างๆ ที่ติดตามซอกฟัน และใช้ขัดช่องว่างระหว่างอุปกรณ์จัดฟันและฟันของท่านให้สะอาดมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

-    ให้ทันตแพทย์ช่วยด้วย

ซึ่งหากว่าท่านคิดว่าทำความสะอาดได้ดีที่สุดแล้ว แต่ฟันก็ยังคงเป็นคราบต่างๆเกาะแน่นอยู่ แนะนำให้พบทันตแพทย์เพื่อช่วยขจัดคราบเหล่านั้นด้วยทันตกรรม Airflow เพื่อขจัดคราบฝังลึก ด้วยระยะเวลาอันรวดเร็วเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น คราบต่างๆที่เกาะแน่นก็จะหายไป นอกจากจะได้ฟันที่ขาวสะอาดรอยยิ้มสดใสแล้ว ยังได้สุขภาพฟันที่ดีกลับมาอีกด้วย

 
-    ข้อควรระวัง สำหรับผู้ที่จัดฟัน

หากผู้ที่ทำการจัดฟัน แต่กลับไม่ได้ดูแลความสะอาดหรือเอาใจใส่ในส่วนนี้ให้ดีกว่าปกติแล้วล่ะก็ อาจจะส่งผลให้เกิดฟันผุได้ รวมถึงโรคเหงือกต่างๆตามมาอีกด้วย

นอกจากจะไม่ได้ฟันที่เรียงตัวกันสวยงามตามที่คาดหวังเอาไว้ บางรายอาจจะต้องสูญเสียฟันแท้ที่สวยงามตามธรรมชาติให้กับโรคฟันผุหรือโรคเหงือกรุนแรงไปอีกด้วย หรือถ้าจะพูดถึงทางด้านบุคลิกภาพหากอุปกรณ์ไม่ได้รับการดูแลรักษาความสะอาดที่ดีพอแล้วล่ะก็ปัญหาที่ตามมาอย่างแรกเลย คือ กลิ่นปากรุนแรง ส่งผลทำให้ท่านไม่อยากพูดคุยกับใคร เสียความมั่นใจเป็นอย่างมาก

ท้ายที่สุด ผู้ที่ใส่อุปกรณ์จัดฟัน ควรมีระเบียบวินัยในการดูแลสุขภาพช่องปากเพิ่มมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหลังการจัดฟันนั่นเอง



กำลัง “จัดฟัน” ควรแปรงฟันอย่างไร ? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

227
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เปิดให้จอง "สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดขวัญถุง" ส่งเสริมการออมสำหรับนักเรียน นักศึกษา อายุ 7-18 ปีบริบูรณ์ ลุ้นรางวัลพิเศษ 1 แสนบาท โดยการเปิดจองฝากสลากฯ แอปพลิเคชัน BAAC Mobile และ ธ.ก.ส. ทุกสาขา

รายละเอียดสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดขวัญถุง

ผู้มีสิทธิ์ฝาก : บุคคลธรรมดา อายุ 7 - 18 ปี (บริบูรณ์) ที่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย มีชื่อในทะเบียนบ้าน ทร.14
 
การับฝาก :
รับฝากหน่วยละ 20 บาท เปิดรับฝากทุกวัน ยกเว้นวันที่ธนาคารออกรางวัล รับฝากเฉพาะเลขเดี่ยวเท่านั้น ผ่านทาง ธ.ก.ส. สาขา และแอปพลิเคชัน BAAC Mobile
วงเงินรับฝาก ไม่เกิน 300,000 บาทต่อหน่วย
จำนวนรับฝาก 10 หมวด หมวดละ 10 ล้านหน่วย รวม 100 ล้านหน่วย รวมวงเงิน 2,000 ล้านบาท
อายุรับฝาก : 6 ปี ครบกำหนดแบบวันชนวัน นับจากวันที่รับฝาก

ดอกเบี้ยและเงื่อนไขในการจ่ายดอกเบี้ย :
ครบกำหนดระยะเวลา 6 ปี จะได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 3 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.50 ต่อปี ธ.ก.ส. จะโอนต้นเงินและดอกเบี้ยเข้าบัญชีออมทรัพย์คู่โอนของลูกค้าให้อัตโนมัติ

กรณีถอนก่อนครบกำหนด
- ผู้ที่ฝากไม่ครบ 3 เดือน ธนาคารคิดค่าธรรมเนียมการถอนจากมูลค่าสลาก 0.4. บาทต่อหน่วย (ได้รับคืนต้นเงินหน่วยละ 19.60 บาท)
- ผู้ที่ฝากตั้งแต่ 3 เดือน แต่ไม่ครบ 6 เดือน ธนาคารไม่จ่ายดอกเบี้ย (ได้รับเฉพาะต้นเงิน)
- ผู้ที่ฝากตั้งแต่ 6 เดือน แต่ไม่ครบ 3  ปี ธนาคารจ่ายดอกเบี้ย ร้อยละ 0.75 ต่อปี
- ผู้ที่ฝากตั้งแต่ 3 ปี แต่ไม่ครบ 6 ปี ธนาคารจ่ายดอกเบี้ย ร้อยละ 1.50 ต่อปี
- ถอนครั้งละไม่ต่ำว่า 20 บาท (1 หน่วย) และการถอนบางส่วนของสลากแต่ละฉบับก่อนครบอายุ ธนาคารจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการแยกส่วนสลาก (Split) ฉบับละ 50 บาท
จำนวนเงินรางวัลและเงินรางวัลต่อครั้ง :

การออกรางวัล : ออกรางวัลวันที่ 16 ทุกเดือน ยกเว้นเดือนมกราคม ออกรางวัลวันที่ 17 มกราคม ซึ่งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการออกรางวัล
สิทธิ์ในการตรวจรางวัล : ผู้ที่ฝากภายในวันที่ 15 ของเดือน จึงจะมีสิทธิ์ตรวจรางวัลในเดือนนั้น โดยสลากแต่ละหน่วยมีสิทธิ์ตรวจรางวัล 72 ครั้ง
ตรวจผลการออกรางวัล : ตรวจสอบผลการออกรางวัลได้ที่ เว็บไซต์ของธนาคาร www.baac.or.th และแอปพลิเคชัน BAAC Mobile


เงื่อนไขเพิ่มเติม :

บุคคลธรรมไม่เสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากและเงินรางวัล
การถอนกรรมสิทธิ์ลสากออกมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชนิดระบุชื่อผู้ฝากต้องดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ด้วยตนเองที่สาขาที่ทำการขึ้นทะเบียนผู้ฝากสลากออมทรัพย์เท่านั้น ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ด้วยการส่งมอบ โดยมีค่าธรรมเนียมในการออกบัตรสลากฯ ฉบับละ 50 บาท และผู้รับโอนกรรมสิทธิ์สลาก ถือเป็นผู้ทรงคนที่ 2 ต้องเสียภาษีร้อยละ 15 ของดอกเบี้ยสลากเมื่อครบกำหนด โดยผู้รับโอนกรรมสิทธิ์สลาก ต้องเป็นผู้มีสิทธิฝากสลากอายุตั้งแต่ 7-18 ปี (บริบูรณ์) และภายหังจากการรับโอนกรรมสิทธิ์แล้วมียอดการฝากสลากรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 300,000 บาท
กรณีผู้ฝากเสียชีวิต ทายาทหรือผู้จัดการมรกดสามารถขอโอนกรรมสิทธิ์สลากเป็นชื่อของทายาทได้โดยไม่เสียภาษีดอกเบี้ย (ไม่ถือว่าเป็นผู้ทรงที่ 2)

**เงื่อนไขอื่นๆ เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 555 0555 หรือเว็บไซต์ www.baac.or.th
 

money expo: สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดขวัญถุง ฝากหน่วยละ 20 บาท ลุ้นรับ 1 แสน  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/moneyexpo/

228

บ่าวสาวคู่ไหนที่กำลังดูสถานที่จัดงานแต่งอยู่ตอนนี้ ห้ามพลาด! กับ 5 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนเลือกจองสถานที่ ที่จะช่วยให้คุณคุมงบอยู่ เตรียมงานได้ถูกทิศทาง รู้ว่าจะต้องมองหาหรือสอบถามเรื่องอะไรบ้าง และรู้ล่วงหน้าว่าอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอะไรในอนาคต ไปดูเลยค่ะ


1. สถานที่จัดงานแต่งมีของตกแต่งอะไรให้บ้าง?

       สิ่งสำคัญที่บ่าวสาวควรเช็กกับทางโรงแรม คือ เรื่องของการตกแต่งค่ะ ลองดูว่าถ้าเลือกจัดงานแต่งที่นี่ ทางสถานที่จัดงานแต่งมีอะไรให้เป็นพื้นฐานบ้าง เช่น รูปแบบการตกแต่งเป็นอย่างไร มีดอกไม้ตกแต่งจุดไหนบ้าง แล้วค่อยมาดูว่างานแต่งของเรามีธีมงานแบบไหน ถ้าสิ่งที่คุณต้องการและสิ่งที่สถานที่แต่งงานมีให้ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คุณก็จะสามารถเลือกใช้ของโรงแรมได้เลยค่ะ ทั้งสะดวก ประหยัดเวลา และลดงบในส่วนการตกแต่งได้ด้วย


2. สถานที่จัดงานแต่งมีค่านำเข้าอะไรบ้าง?

       โดยปกติแล้วสถานที่จัดงานแต่งงานจะมีการเก็บค่านำเข้าในส่วนต่าง ๆ ถ้าหากคุณเลือกที่จะจ้างทีมงานจากข้างนอก ส่วนที่มักจะเสียค่านำเข้าเพิ่มเติม ได้แก่ ค่านำเข้าทีมตกแต่ง ค่านำเข้าวงดนตรีและแสงสี ค่านำเข้าซุ้มอาหาร และค่านำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งถ้าคุณรู้ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนนี้ ก็จะช่วยให้คุณวางแผนงบการเงินต่าง ๆ ได้อยู่หมัดมากขึ้นค่ะ


3. สถานที่จัดงานแต่งมีห้องพักและห้องแต่งตัวให้ไหม?

       อีกหนึ่งคำถามที่บ่าวสาวควรเช็กกับทางสถานที่จัดงานแต่งที่คุณดูอยู่ตอนนี้ คือเรื่องห้องพักค่ะ ว่ามีห้องพักให้ไหม มีกี่ห้อง พักได้กี่คืน และมีอาหารเช้าให้ด้วยไหม เพราะคุณอาจจะต้องหาห้องพักไว้ให้กับพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ที่ต้องเดินทางไกล ดังนั้นลองถามทางสถานที่ไว้ก่อน ถ้าได้มากกว่าหนึ่งห้อง คุณก็สามารถสำรองห้องไว้ให้ท่านได้เลยค่ะ นอกจากนี้ ลองถามเรื่องห้องแต่งตัวของเพื่อน ๆ ด้วยนะคะ ว่ามีให้ไหม ถ้ามีก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายได้เยอะเลยค่ะ


4. การจัดเลี้ยงของสถานที่จัดงานแต่งรวมอะไรบ้าง?

       เวลาเลือกแพ็กเกจรูปแบบการจัดเลี้ยง บ่าวสาวอย่าลืมตรวจสอบว่าทางโรงแรมมีอะไรให้บ้างนะคะ เช่น ถ้าเป็นงานเช้าจะมี Coffee break ให้ไหม งานเลี้ยงฉลองเย็นมีเครื่องดื่มอะไรให้บ้าง น้ำอัดลม น้ำผลไม้ หรือมีแอลกอฮอล์ให้กี่ขวด มีค่าเปิดขวดไหม และถ้ายังไม่ได้รวมค่าแอลกอฮอล์ จะต้องเพิ่มเงินส่วนนี้เท่าไหร่ เพื่อให้เราสามารถคำนวณงบตรงส่วนการจัดเลี้ยงได้ง่ายขึ้นค่ะ


5. ค่าธรรมเนียมล่วงเวลาของสถานที่จัดงานแต่ง

       หากบ่าวสาวจะมีแพลนจะปาร์ตี้ยาว ๆ หลังงานเลี้ยงฉลองจบ อย่าลืมตรวจสอบค่าธรรมเนียมการใช้สถานที่ล่วงเวลาด้วยนะคะ สถานที่แต่งงานจะมีการระบุระยะเวลาไว้ว่าใช้ห้องจัดเลี้ยงได้ถึงกี่โมง หากจะใช้ต่อจะมีค่าธรรมเนียมต่อชั่วโมงเท่าไหร่ บางที่อาจรวมให้ ถ้าค่าใช้จ่ายถึงยอดที่กำหนดไว้ เป็นต้นค่ะ



จัดเลี้ยงนอกสถานที่: 5 เรื่องต้องรู้ คุมงบอยู่ ก่อนจองสถานที่จัดงานแต่ง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/

229
เป็นกันบ้างหรือเปล่า บ้านที่อยู่อาศัยได้ระยะหนึ่งแล้ว ก็จะเริ่มมีปัญหาให้ต้องซ่อมแซมกัน ไม่ว่าจะเป็นหลังคา ไฟฟ้า ท่อน้ำ ซึ่งห้องน้ำก็เป็นอีกห้องที่มีปัญหาให้ต้องซ่อมแซมอยู่บ่อย ๆ สำหรับบทความนี้ ได้รวบรวม 10 สารพันปัญหาที่มักเกิดขึ้นในห้องน้ำ พร้อมแนวทางแก้ไข ซ่อมแซมมาให้


1. ห้องน้ำมีกลิ่น
สาเหตุที่ 1: น้ำในถ้วยของตะแกรงกันกลิ่นแห้ง/ สกปรก
แนวทางแก้ไข: ทำความสะอาดถ้วยน้ำในตะแกรงกันกลิ่น

สาเหตุที่ 2: น้ำ P-Trap หรือ U-trap แห้งหรือมีสิ่งสกปรก
แนวทางแก้ไข: ให้ตรวจสอบรอยรั่ว รอบ ๆ P-trap หรือ U-trap หากพบรอยรั่วให้ทำการแก้ไขโดยการเปลี่ยนชิ้นส่วน หรือถ้าพบว่ามีสิ่งสกปรกติดค้างอยู่ใน P-trap หรือ U -trap ให้ทำความสะอาด

สาเหตุที่ 3: กดชำระล้างจากโถปัสสาวะไม่สะอาด
แนวทางแก้ไข: กดน้ำเพื่อชำระให้นานมากขึ้น (น้ำที่กดชำระจะต้องไปแทนน้ำที่อยู่ใน P trap หรือ U trap เดิม จึงจะสามารถช่วยลดกลิ่นได้) หากกลิ่นยังอยู่ควรถอดชุดดักกลิ่นออกมาเพื่อล้างทำความสะอาด

สาเหตุที่ 4: จุลินทรีย์ในถังบำบัดเหลือน้อย
แนวทางแก้ไข: เติมจุลินทรีย์ลงในถังบำบัด

สาเหตุที่ 5: ไม่มีประเก็นกันกลิ่นระหว่างท่อชักโครกกับท่อระบายน้ำ
แนวทางแก้ไข: อาจเป็นส่วนที่ตรวจสอบได้ยากที่สุด เนื่องจากจุดติดตั้งอยู่ในชักโครก สังเกตโดยหากมีรอยหลุดร่อนของยาแนวระหว่างชักโครกและพื้น แล้วมีน้ำซึมออกมา ให้สันนิษฐานได้ว่าประเก็นกันกลิ่นชำรุดหรือช่างไม่ได้ติดตั้ง การแก้ปัญหาต้องให้ช่างผู้ชำนาญดำเนินการติดตั้ง


2. ก๊อกน้ำมีน้ำหยด
สาเหตุ: แหวนรองในเสื่อมสภาพ
แนวทางแก้ไข: โดยทั่วไปแหวนรองในมี 2 ประเภท คือแหวนรองในแบบยางและแหวนรองในแบบเซรามิก ซึ่งแหวนรองในแบบยางหากเสื่อมสภาพสามารถเปลี่ยนได้ แต่แหวนรองในแบบเซรามิกต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ทั้งชุด


3. ปัญหารอยรั่วขอบอ่างและสุขภัณฑ์
สาเหตุ: ปูนยาแนวระหว่างสุขภัณฑ์กับพื้นเสื่อมสภาพ
แนวทางแก้ไข: ขูดยาแนวเก่าออกให้หมดแล้วจึงทำความสะอาดด้วยฟองน้ำ ยาแนวด้วยซิลิโคนกันน้ำให้โดยรอบ (ต้องสวมถุงมือระหว่างการทำงานด้วย)


4. ปุ่มกดชักโครกค้าง
สาเหตุที่ 1: แกนเหล็กและโซ่อาจพันกัน
แนวทางแก้ไข: หากเกิดจากแกนเหล็กและโซ่ภายในถังเก็บน้ำพันกันให้ลองจัดวางใหม่

สาเหตุที่ 2: ปุ่มกดน้ำชำรุด
แนวทางแก้ไข: เปลี่ยนอุปกรณ์อะไหล่


5. กดชัดโครกแล้วน้ำเอ่อล้นออกมา
สาเหตุ: ตำแหน่งท่อที่ระบายน้ำออกจากชักโครกกับท่อระบายน้ำไม่ตรงกัน ทำให้ทางระบายน้ำไม่สะดวกจึงทำให้นำเอ่อล้นออกมา
แนวทางแก้ไข: ต้องทำการปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ดำเนินการติดตั้งเพื่อให้ท่อทั้ง 2 จุดตรงกัน


6. มีน้ำซึมออกมาจากถังเก็บน้ำ
สาเหตุ: สายยางหรือแหวนรองในถังเก็บน้ำชำรุดหรือเสื่อมสภาพ
แนวทางแก้ไข: เปลี่ยนอุปกรณ์ชิ้นนั้น ๆ ใหม่


7. น้ำหยดออกจากส่วนข้อต่อต่าง ๆ
สาเหตุ: สายยางหรือแหวนรองในถังเก็บน้ำชำรุดหรือเสื่อมสภาพ
แนวทางแก้ไข: ตรวจสอบการเสื่อมสภาพของข้อต่อ และทำการติดตั้งข้อต่อใหม่โดยใช้เทปพันเกลียวและกาว แต่หากน้ำซึมออกจากข้อต่อระหว่างสายยางและสุขภัณฑ์ ให้ตรวจสอบแหวนรองในข้อต่อนั้น ๆ


8. เทอร์โมสตัทเครื่องทำน้ำอุ่น ทริปบ่อย
สาเหตุ: ติดตั้งผิด แบบที่ไม่ต่อสายน้ำเข้า หรือเทอร์โมสตัทเกิดเสียจากการใช้งานที่มีน้ำค้างอยู่ในหม้อต้มนานเกินไป
แนวทางแก้ไข: เปลี่ยนอุปกรณ์เฉพาะจุดที่เกิดปัญหา


9. ไฟไม่เข้าเครื่องทำน้ำอุ่น
สาเหตุ: เกิดจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในเครื่องเกิดการชำรุด
แนวทางแก้ไข: ปัญหานี้ต้องอาศัยช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความชำนาญมาทำการตรวจสอบ และสามารถแก้ไขได้โดยเปลี่ยนชิ้นส่วนภายในเครื่อง ไม่แนะนำให้ทำเองหากไม่มีความชำนาญในการตรวจสอบ เพราะอาจกลายเป็นการสร้างความเสียหายมากกว่าเดิม


10. เครื่องทำน้ำอุ่นไม่ร้อน
สาเหตุที่ 1: ขดลวดร้อนชำรุด/ ตัวปรับบอุณหภูมิชำรุด
แนวทางแก้ไข: ปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการแก้ไข

สาเหตุที่ 2: จุกแม่เหล็กภายในเครื่องที่มีหน้าที่ในการเปิด-ปิดกระแสไฟเพื่อทำความร้อนชำรุด
แนวทางแก้ไข: สามารถเปลี่ยนอุปกรณ์เฉพาะส่วน

ซ่อมบำรุงอาคาร: สารพันปัญหาในห้องน้ำ ซ่อมแซมอย่างไร  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/technical-services/

230

ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนป้องกันโควิดกันกี่เข็มแล้วก็ตาม จะตรวจภูมิคุ้มกันโควิดเพื่อสร้างความมั่นใจแค่ไหน ร่างกายเราก็ยังจำเป็นต้องสร้างภูมิคุ้มกันด้วยวิธีธรรมชาติ หนึ่งในนั้นก็คือระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ที่เกิดจากอาหารการกินในทุกๆ วันของเรานี่ล่ะ

เพราะสารอาหารที่ดีมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิต้านทานร่างกาย ทั้งการสร้างแอนติบอดี้ที่จำเป็นต่อการป้องกันไวรัสและแบคทีเรียที่เข้าจู่โจม ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ไปจนถึงรักษาสมดุลในลำไส้ก็เป็นการเสริมภูมิคุ้มกันอีกวิธีหนึ่งเช่นกัน

ถ้าอยากได้สารอาหารเน้นๆ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายจากไวรัส มากิน 5 สารอาหารนี้เลย

         
1.โปรตีนจากเนื้อปลาทะเล

โปรตีนจากปลาเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย และดูดซึมได้ง่าย ร่างกายเรานอกจากต้องการโปรตีนเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ โปรตีนยังเป็นองค์ประกอบของสารแอนติบอดี้ในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน โปรตีนจะถูกใช้ในการสร้างเซลล์ต่างๆ และเป็นส่วนประกอบของเนื้อเยื่อ ถ้าร่างกายขาดโปรตีนจะส่งผลต่อภูมิต้านทาน อาจทำให้ติดเชื้อได้ง่าย การกินปลาทะเล ยังทำให้เราได้กรดไขมันโอเมก้า- 3 ที่มีส่วนช่วยให้ร่างกายต่อต้านเชื้อโรค และมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ มีงานวิจัยจาก Harvard Medical School ที่พิสูจน์ว่า กรดไขมันโอเมก้า-3 ยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงและบรรเทาโรคปอดอักเสบติดเชื้อได้จริง

         
2.วิตามินจากผลไม้รสเปรี้ยว

ไม่ว่าจะเป็นส้ม มะนาว ส้มโอ เกรปฟรุต นอกจากจะมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวให้เพียงพอในการต่อสู้กับเชื้อโรค ในผลไม้ตระกูลส้มยังมีสารไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) สารเคมีจากพืชที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อย่างแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) และโพลีฟีนอล (Polyphenol) ที่ล้วนมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบ

         
3.แร่ธาตุสังกะสีจากข้าวกล้องและธัญพืช

สังกะสีหรือซิงค์เป็นแร่ธาตุสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย แร่ธาตุสังกะสีมีส่วนช่วยเพิ่มจำนวนและประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิดที–เซลล์ (T-Cell) ซึ่งเป็นเซลล์สำคัญชนิดหนึ่งของร่างกายที่มีหน้าที่หลักในการค้นหาเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายและทำการกำจัดทิ้ง เพื่อให้ได้สังกะสีเพียงพอในแต่ละวัน เราสามารถเลือกกินข้าวกล้องแทนข้าวขัดสี และกินธัญพืชวันละเล็กน้อย อย่างงาขาว งาดำ ถั่วลิสง ถั่วแดง

         
4.เบต้ากลูแคนจากเห็ด

เบต้ากลูแคนเป็นสารเชิงซ้อนในกลุ่มโพลีแซคาไรด์ ที่พบมากในเห็ดและยีสต์ มีฤทธิ์ในการกระตุ้นเซลล์แมคโครฟาจ (Macrophage) เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่ทำหน้าทีกลืนกินและย่อยสลายเซลล์แปลกปลอมในร่างกายที่ผิดปกติ เห็ดที่มีงานวิจัยพบว่ามีสารเบต้ากลูแคนในปริมาณที่สูง คือเห็ดนางรม เห็ดแชมปิยอง และเห็ดหอม

         
5.อาหารที่มีโพรไบโอติกส์

กว่า 70% ของภูมิคุ้มกันร่างกายจะอยู่บริเวณลำไส้ ในลำไส้คนเราจะมีจุลินทรีย์ชนิดดีหรือที่เรียกว่าโพรไบโอติกส์ อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อทำหน้าที่ย่อยและดูดซึมสารอาหาร ช่วยป้องกันการเกิดโรคและรักษาภาวะที่ผิดปกติของร่างกาย การสร้างสมดุลของโพรไบโอติกส์ในลำไส้เราจึงส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง นอกจากนี้โพรไบโอติกส์ยังมีส่วนช่วยให้ร่างกายผลิตสารไซโตไคน์ สารกลุ่มโปรตีนที่ร่างกายผลิตเพื่อต่อสู้และกำจัดกับสิ่งผิดปกติที่เข้ามาในร่างกายอย่างเชื้อไวรัสต่างๆ อาหารที่มีโพรไบโอติกส์หรือจุลินทรีย์ตัวดีที่ร่างกายต้องการ ที่สารมารถกินได้ทุกวันในปริมาณที่เหมาะสมก็คือ โยเกิร์ต นมเปรี้ยว กิมจิ หรือแอปเปิ้ลไซเดอร์ก็ได้เช่นกัน

นอกจากสารอาหารที่เป็นตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกันหลักตามธรรมชาติแล้ว การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอให้ร่างกายกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันก็เป็นสิ่งจำเป็นต้องทำควบคู่ไปเช่นกัน


อยากเพิ่มภูมิต้านทาน ด้วยอาหาร ต้องกินอะไรให้ได้ประไยชน์เต็มๆ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/

231
รู้จัก Doctor At Home
Doctor at Home คือแพลตฟอร์มที่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจอาการเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ ข้อมูลโรคที่รอบด้าน ทั้งอาการ สาเหตุ วิธีรักษา การป้องกัน ไปจนถึงการดูแลตนเอง อีกทั้งยังรวมข้อมูลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งคัดสรรมาเพื่อผู้ใช้งานของเรา

Doctor at Home โปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
เป็นการตรวจอาการเบื้องต้นแบบ interactive ที่จะทำให้ผู้ใช้งานรู้ข้อมูลเบื้องต้นของโรคที่อาจจะเป็น รวมไปถึงวิธีปฏิบัติตัวเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ โดยโปรแกรมนี้ได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 1” ของ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มาจัดทำให้ใช้งานได้บนเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน LINE

ข้อมูลโรค พร้อมโปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
ผู้ใช้งานสามารถอ่านข้อมูลโรค อาการ สาเหตุ การป้องกันและการรักษา เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลตัวเอง โดยเราได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2” โดย รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และข้อมูลโรคที่ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เขียนเพิ่มเติมมารวบรวมไว้ในเว็บไซต์ของเรา
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่หลังจากอ่านข้อมูลโรคแล้ว ท่านยังสามารถตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ ว่าท่านมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนั้น ๆ หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อเตรียมตัวก่อนไปพบแพทย์
มีแล้วอุ่นใจ เจ็บป่วย ช่วยเหลือฉุกเฉิน แค่ Add LINE @DoctorAtHome ให้มาเป็น “หมอประจำบ้าน” คอยดูแลคุณอยู่ใกล้ๆ

ไลน์ ID  :  @DoctorAtHome
เว็บไซด์: https://doctorathome.com/





232
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” ตราเอ็มเมด แพ็ค 7 ซอง/กล่อง

“ออน (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) (ตราเอ็มเมด) เติมพลังให้ชีวิต”
สมองและใจที่ดี มันต้องไปกับร่างกายที่พร้อม
ด้วยภารกิจที่แสนจะหนักหน่วง ใจพร้อมแต่บางทีร่างกายมันไม่พร้อมไปด้วย เหนื่อยล้าเหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต
MMED สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อกระตุ้นความตื่นตัวให้กับร่างกายด้วยการสารสกัด Goji berry ที่มีวิตามิน C สูง และเสริมสร้างพละกำลังให้ร่างกายด้วย Taurine, Q10, L-Gluamine รวมทั้งวิตามิน B1, B3 และ Zinc ให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า แถมท้ายด้วย Blueberry juice ที่ช่วยบำรุงสมองควบคู่ไปด้วย

ข้อมูลผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน”
ชื่อผลิตภัณฑ์
: ออน
เลขที่ใบรับแจ้ง
: 13-1-15859-5-1159
ขนาดบรรจุ
: 1 กล่อง (7 ซอง)
วิธีรับประทาน
: รับประทานวันละ 1 ซอง (3 กรัม) เทผลิตภัณฑ์กรอกใส่ปาก เคี้ยวก่อนกลืนและดื่มน้ำตาม
จุดเด่นผลิตภัณฑ์
: ควบคุมและตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานโดย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ส่วนประกอบสำคัญ
: L-Glutamine (100%) 200 mg.
Coenzyme Q10 (10%) 50 mg.
Goji berry extract 50 mg.
Zinc amino acid chelate (20%) 50 mg.
L-Glutathione (100%) 50 mg.
Blueberry juice powder 50 mg.
Taurine (100%) 20 mg.
Niacinamide (B3) (100%) 20 mg.
Thiamine hydrochloride (B1) 1 mg.

คุณประโยชน์

: กระตุ้นความตื่นตัวให้กับร่างกายด้วยการสารสกัด Goji berry ที่มีวิตามิน C สูง และเสริมสร้างพละกำลังให้ร่างกายด้วย Taurine, Q10, L-Gluamine รวมทั้งวิตามิน B1, B3 และ Zinc ให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า แถมท้ายด้วย Blueberry juice ที่ช่วยบำรุงสมองควบคู่ไปด้วย
ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กล่อง      315    บาท
2 กล่อง      599    บาท
3 กล่อง      859     บาท

สนใจสั่งซื้อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” (ตราเอ็มเมด)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์: https://mmed.com/products/


233
เชื้อร้าย ฝุ่น มลภาวะเปลี่ยนปอดพัง เป็นปอดปัง ตัวช่วยสำคัญ “กระชายพลัส เอ็มเมด”บรรเทาอาการนอนน้อย อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เหนื่อยง่าย

คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชายขาว ซึ่งมีสารสำคัญ 2 ชนิด คือ สาร Pandulatin A และสาร Pinostrobin ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการผลิตและการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสได้ 100%

จากงานวิจัยกระชาย มหาวิทยาลัยมหิดล
คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชาย 4 ชนิด คือสาร Pinostrobin, Pinicembrin, Panduratin A และ Alpinetin ที่สามารถนำมาใช้เป็นยารักษาผู้ป่วย ที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียได้

จากงานวิจัยกระชาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
✅ คุณประโยชน์ของสารสกัดกระชายขาว ที่ช่วยลดและยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ในอากาศได้
✅ เมื่อปอดแข็งแรง การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนจากลมหายใจเข้าสู่อวัยวะต่างๆของร่างกาย ผลิตเป็นพลังงานให้กับเซลล์
✅ และกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเซลล์ จึงส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี เราจึงไม่เหนื่อยหอบง่าย ไม่อ่อนเพลีย
“กระชายพลัส เอ็มเมด” โดยมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อการมีสุขภาพดี ปอดแข็งแรง พร้อมเผชิญกับปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ ที่แพร่ระบาด
สุขภาพปอดดี จะวิ่ง จะเดิน จะเวท ไม่เหนื่อยง่าย ไม่เพลีย

มหาวิทยาลัยมหิดล เห็นความสำคัญของ สารสกัดกระชายขาว จึงได้วิจัย พัฒนา และ สกัดสารสำคัญของกระชายขาว ที่มีคุณภาพ
จึงเป็นที่มาของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
ด้วยมาตรฐาน MST Standard จากมหาวิทยาลัยมหิดล จึงมั่นใจได้ว่า เมื่อคุณทาน กระชายพลัส เอ็มเมดคุณจะได้คุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีคุณภาพ ในการช่วยดูแลร่างกายให้แข็งแรง ปอดมีสุขภาพดี

ส่วนประกอบสำคัญ
👉 สารสกัดกระชาย 200 มก.
👉 ยีสต์ เบต้า-กลูแคน 70% 100 มก.
👉 แคลเซียม แอสคอร์เบต ไดไฮเดรต (VitC) 60 มก.
👉 วิตามิน บี1, วิตามิน บี6, วิตามิน บี12
1 ขวด บรรจุ 30 แคปซูล (470 มิลลิกรัม/แคปซูล)

ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กระปุก      199    บาท
2 กระปุก      359    บาท
3 กระปุก     499     บาท


เลข อย. 13-1-02954-5-0548
รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหาร

ปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ เชื้อโรคในอากาศ อีกหนึ่งตัวช่วยที่สำคัญ
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
เพื่อการมี สุขภาพดี ปอดแข็งแรง ภูมิต้านทานที่ดี ของคุณและคนที่คุณรัก

สนใจสั่งซื้อ กระชายพลัส เอ็มเมด (กระชายมหิดล)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์: https://mmed.com/products/


234
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



235
รถกระบะรับจ้าง รถ6ล้อรับจ้าง ขนย้ายบ้านราคาถูก จังหวัดสมุทรสาคร

รับจ้างขนย้ายบ้านสมุทรสาคร ราคาถูก จ้างรถขนของไปต่างจังหวัด การขนย้ายบ้านเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น แต่ก็อาจมาพร้อมกับความท้าทายบ้าง โดยเฉพาะเมื่อคุณกำลังมองหาบริการที่มีคุณภาพและราคาที่เข้าถึงได้ง่าย หากคุณกำลังวางแผนที่จะย้ายบ้านในจังหวัดสมุทรสาคร รถขนของย้ายบ้านสมุทรสาคร ไม่ต้องกังวล! ในบทความนี้เตรียมตัวไว้สำหรับการขนย้ายบ้านในจังหวัดสมุทรสาคร โดยเราจะนำคุณผ่านขั้นตอนสำคัญและแนะนำเคล็ดลับที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การย้ายบ้านของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและปราศจากความกังวล ตั้งแต่การค้นหาบริการ รับจ้างรถ6ล้อขนย้ายบ้าน จนถึงการค้นหาบริการขนส่งที่เชื่อถือได้ในจังหวัดสมุทรสาคร เราจะช่วยเสมือนเป็นแห่งการแนะนำในการเลือกบริการที่เหมาะสมกับคุณ

รถรับจ้างราคาถูก

1. ขั้นตอนการขนย้ายบ้านราคาถูก
ก่อนที่คุณจะเข้าสู่กระบวนการขนย้ายบ้านด้วย รถกระบะรับจ้างจังหวัดสมุทรสาคร หรือ รถ6ล้อรับจ้างจังหวัดสมุทรสาคร การวางแผนอย่างละเอียดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด นี่คือวิธีที่คุณสามารถเตรียมความพร้อมเพื่อความสำเร็จได้:

เลือกบริการขนย้ายบ้านที่เชื่อถือได้

การเลือกบริการ ขนย้ายบ้านราคาถูก นั้นเป็นขั้นแรก ค้นหาบริษัทที่มีชื่อเสียงดี รีวิวจากลูกค้าที่ดี และมีบริการหลากหลายที่เหมาะกับความต้องการของคุณ เลือก รับจ้างขนย้ายบ้าน รถรับจ้างขนของจังหวัดสมุทรสาคร ที่มีประสบการณ์ในจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อความคุ้นเคยกับสถานที่ สภาพการจราจร และอุปสรรคที่เป็นไปได้
สร้างรายการตรวจสอบของการย้ายบ้านไปต่างจังหวัด

รายการตรวจสอบการย้ายบ้านเป็นเพื่อนคู่ของคุณในกระบวนการนี้ รายการที่ระบุงานทั้งหมดที่คุณต้องทำก่อน ระหว่าง และหลังการย้าย เช่น แจ้งบริการสาธารณูปโภค การจัดเก็บของไว้อย่างมีประสิทธิภาพ และการจัดเก็บเอกสารสำคัญ

รถรับจ้างขนย้าย 24 ชั่วโมง
ลดของเหลือและบริจาคอย่างฉลาด
การย้ายบ้านเป็นโอกาสที่ดีในการลดของเหลือ ตรวจสอบทรัพย์สินของคุณและตัดสินใจว่าจะเก็บ บริจาค หรือทิ้งทิ้งอย่างไร การบริจาคของที่ใช้งานได้สู่องค์กรกุศลไม่เพียงช่วยลดการสร้างขยะ แต่ยังช่วยเหลือผู้ที่ต้องการ

การแพ็คของอย่างมีประสิทธิภาพ
เริ่มกระบวนการแพ็คล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงความเคร่งครัดในช่วงสุดท้าย ใช้กล่องที่แข็งแรงและใส่ป้ายชื่อตามห้องต่างๆ แพ็คของที่แตกต่างอย่างรอบคอบ และพิจารณาใช้ฟองน้ำอัดกันกระแทกหรือกระดาษห่อเพื่อความปลอดภัยเพิ่มเติม

2. ค่าบริการขนย้ายบ้านราคาถูก
การเลือก บริการขนส่งในสมุทรสาคร รถขนของย้ายบ้านสมุทรสาคร ไปต่างจังหวัด ที่เหมาะสมเป็นคำตอบสำคัญสำหรับการย้ายบ้านที่เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น ดังนั้น เลือกบริการที่มีค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่าและไม่เป็นภาระหนักในกระเป๋าของคุณ

คุณสมบัติของรถ6ล้อที่เหมาะสม
สำหรับการย้ายบ้านขนาดใหญ่ รถขนของย้ายบ้านในสมุทรสาคร ที่มีล้อ 6 ล้อจะมีพื้นที่ส่วนใหญ่และความเสถียร รถเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อขนย้ายของหนัก ทำให้เหมาะสมสำหรับเฟอร์นิเจอร์และของที่ใหญ่โต

คุณภาพของคนขับรถ
เลือกบริการที่มีคนขับรถที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม เชี่ยวชาญในการขับขี่บนถนนในสมุทรสาคร เพื่อให้แน่ใจว่าทรัพย์สินของคุณจะถึงปลายทางโดยปลอดภัย
ตัวเลือกเวลาที่สะดวก
เลือกบริการขนส่งที่มีตัวเลือกเวลาที่คุณสะดวก บริการที่สามารถเข้ากับวันและเวลาที่คุณต้องการจะช่วยลดความกังวลไม่จำเป็น


3. บริษัท ขนส่ง ขนย้ายบ้านราคาถูก
ระหว่างกระบวนการขนย้ายบ้าน ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญตลอดเวลา ปกป้องทรัพย์สินและคุณเองด้วยการประกันและมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสม
การครอบคลุมประกันครอบคลุมทางเบี้ยยังไง
อุบัติเหตุอาจเกิดขึ้น ดังนั้นการลงทุนในการครอบคลุมประกันสำหรับทรัพย์สินของคุณระหว่างการขนย้ายเป็นการเรียบร้อย การคุ้มครองทางการเงินและความสงบในกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด

มาตรการความปลอดภัยและอุปกรณ์
เลือกบริการขนย้ายบ้าน รถขนของย้ายบ้านสมุทรสาคร ที่ใส่ใจความปลอดภัย เช่นการมีอุปกรณ์ที่จำเป็นในการจัดการของหนัก และการรักษาความปลอดภัยในระหว่างการขนย้าย


4. สู่ทางประหยัดในการขนย้ายบ้าน
ในขณะที่การย้ายบ้านอาจมีค่าใช้จ่าย ยังมีวิธีการเพื่อเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าโดยไม่เสียคุณภาพ

เปรียบเทียบใบเสนอราคา
เก็บข้อมูลใบเสนอราคาจากบริการขนย้ายบ้านหลายแห่งในจังหวัดสมุทรสาคร เปรียบเทียบราคาและบริการเพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุดที่ตรงกับงบประมาณของคุณ

เลือกเวลาที่ไม่ได้รับความสนใจ

พิจารณาเลือกย้ายบ้านในช่วงเวลาที่ไม่ได้รับความสนใจหรือวันธรรมดา เนื่องจากความต้องการในการขนย้ายบ้านมักจะน้อยลง ซึ่งอาจเป็นโอกาสที่จะได้รับอัตราค่าบริการที่สำหรับงบประมาณจาก รถกระบะรับจ้างจังหวัดสมุทรสาคร หรือ รถ6ล้อรับจ้างจังหวัดสมุทรสาคร ไปต่างจังหวัด


สรุป รถรับจ้างขนย้ายบ้านสมุทรสาคร ราคาถูก

การ รับจ้างขนของย้ายบ้านในจังหวัดสมุทรสาคร เป็นการเปิดตัวเรื่องใหม่ ด้วยการวางแผนอย่างละเอียด การเลือก รับจ้างรถ6ล้อขนย้ายบ้าน ที่เหมาะสม และการให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ประสบการณ์ของคุณจะเป็นไปอย่างราบรื่นและปราศจากความกังวล อย่าลืมเริ่มการเตรียมตัวในเวลาตรงเวลา จัดการทรัพย์สินอย่างมีประสิทธิภาพ และเลือกบริการขนส่งที่มีค่าใช้จ่ายเหมาะสมและไม่เป็นภาระ ด้วยคำแนะนำที่มีคุณค่าเหล่านี้ คุณจะพร้อมที่จะเข้าสู่บ้านใหม่ด้วย รถรับจ้างขนของจังหวัดสมุทรสาคร ในจังหวัดสมุทรสาครอย่างมีความสุขและสบายใจ ขอให้การย้ายของคุณเป็นทางเลือกที่ดีและสุขใจ


รถรับจ้างขนของเชียงใหม่ รถขนของย้ายบ้านสมุทรสาคร รับจ้างขนของราคาถูกไปต่างจังหวัด อ่านบทความเพิ่มเติมคลฺิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/category/105

236
โรคกังวลทั่วไป จัดเป็นโรควิตกกังวล* ที่พบได้บ่อยชนิดหนึ่ง ผู้ป่วยจะมีภาวะวิตกกังวลมากเกินกว่าเหตุเกี่ยวกับปัญหาหรือเหตุการณ์ทั่วไปในชีวิตประจำวันพร้อมกันหลายเรื่อง โดยไม่มีสาเหตุจากการเจ็บป่วยอื่น ๆ หรือจากการใช้ยาหรือสารเสพติด และไม่พบว่าเกิดจากสาเหตุจำเพาะอันใดอันหนึ่ง อาการมักเป็นเรื้อรังนานเกิน 6 เดือน และส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน

โรคนี้พบได้ในคนทุกวัย มักมีอาการเกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่น

พบได้ประมาณร้อยละ 3-8 ของประชากรทั่วไปเมื่อติดตามในช่วง 1 ปี

พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 2 เท่า

* โรควิตกกังวล (anxiety disorders) หมายถึงภาวะวิตกกังวลหรือมีความรู้สึกกลัวอย่างรุนแรงกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดอาการทางกายและใจ กระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน โรคกลุ่มนี้ยังแบ่งออกเป็นชนิดย่อยได้หลายชนิด ดังนี้

1. โรคกังวลทั่วไป (generalized anxiety disorder/GAD) ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกกังวลมากเกินกว่าเหตุในหลาย ๆ เรื่องพร้อมกัน ร่วมกับอาการผิดปกติทางกายต่าง ๆ อย่างเรื้อรัง โดยไม่มีสาเหตุจากการเจ็บป่วยอื่น ๆ และการใช้ยาหรือสารเสพติด และไม่พบว่าเกิดจากสาเหตุจำเพาะอันใดอันหนึ่ง

2. โรคแพนิก (panic disorder) ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกกลัวอย่างรุนแรง โดยไม่มีเหตุกระตุ้นชัดเจน อาการจะเป็นเพียงช่วงสั้น ๆ แต่กำเริบได้บ่อย (ดู “โรคแพนิก” เพิ่มเติม)

3. โรคกลัว (phobias) ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกกลัวต่อสิ่งหรือสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างมากเกินกว่าเหตุ และไม่กล้าเผชิญกับสิ่งหรือสถานการณ์นั้น ๆ จนกระทบต่อการดำเนินชีวิต อาจมีลักษณะกลัวต่อสิ่งหรือสถานการณ์หนึ่ง ๆ อย่างจำเพาะ (specific phobia) เช่น กลัวสัตว์ต่าง ๆ (สุนัข งู คางคก แมลงสาบ) ที่สูง ที่แคบ ความมืด เชื้อโรค การโดยสารเครื่องบิน การเห็นเลือด การทำฟัน เป็นต้น หรือกลัวการเข้าสังคม (social phobia) เช่น งานเลี้ยงสังสรรค์ การพูดในที่ชุมชน เป็นต้น หรือกลัวการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่หลบออกได้ยากหรือรู้สึกลำบากใจเมื่อเกิดอาการแพนิก (agoraphobia) เช่น การอยู่ในฝูงชน ที่ชุมนุม หรือห้องประชุม เป็นต้น อาการมักเป็นอยู่นานอย่างน้อย 6 เดือน โรคนี้มักมีอาการเกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงวัยรุ่น

การรักษา ให้ยาทางจิตประสาทร่วมกับการทำจิตบำบัด และพฤติกรรมบำบัด โดยเฉพาะการให้เผชิญกับสิ่งหรือสถานการณ์ที่ผู้ป่วยกลัว (exposure therapy)

4. โรคย้ำคิดย้ำทำ (obsessive-compulsive disorder) ผู้ป่วยจะมีอาการคิดหรือทำอะไรซ้ำ ๆ โดยไม่มีเหตุผล จนมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เรื่องที่ย้ำคิดมักเป็นเรื่องไร้สาระ น่ากลัว หรือน่ารังเกียจ เช่น ความสกปรก ความรุนแรง การทำร้ายผู้อื่น อุบัติเหตุ เรื่องเพศ ลืมปิดประตู ลืมปิดไฟ เป็นต้น ส่วนอาการย้ำทำจะมีลักษณะทำอะไรซ้ำ ๆ เช่น ล้างมือ จัดสิ่งของให้เป็นระเบียบ นับสิ่งของ นับจังหวะก้าวที่เดิน ตรวจเช็กกลอนประตูหน้าต่าง สวิตช์ไฟหรือเตาแก๊ส เป็นต้น อาการมักเป็นอยู่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ โรคนี้มักมีอาการเกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้น การรักษาเช่นเดียวกับโรคกลัว

5. โรควิตกกังวลหลังเผชิญเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น สงคราม ภัยธรรมชาติ ถูกทำร้ายหรือข่มขืน อุบัติเหตุร้ายแรง เป็นต้น ผู้ป่วยจะมีอาการหวาดผวาอย่างรุนแรง มีความรู้สึกสิ้นหวัง คิดและฝันซ้ำ ๆ รวมทั้งลืมเหตุการณ์นั้น ๆ ผู้ป่วยมักมีอาการนอนไม่หลับ ตื่นเต้นตกใจง่าย อารมณ์แปรปรวน ขาดสมาธิ ความจำแย่ลง บางรายอาจมีประสาทหลอนร่วมด้วย ถ้ามีอาการเกิดขึ้นภายหลังเผชิญเหตุการณ์ภายใน 4 สัปดาห์ และมีอาการอยู่ไม่เกิน 1 เดือน แล้วทุเลาไปเอง เรียกว่า “Acute stress disorder” ซึ่งเป็นภาวะที่เป็นเพียงชั่วคราว แต่ถ้ามีอาการเรื้อรังนานเกิน 1 เดือน เรียกว่า “Post- traumatic stress disorder” ซึ่งอาจเกิดอาการภายหลังเหตุการณ์ 1 สัปดาห์ หรือหลายปีต่อมา อาการมักเรื้อรังหรือเป็น ๆ หาย ๆ เมื่อถูกกระตุ้นให้คิดถึงเหตุการณ์นั้น ๆ ผู้ป่วยมักจะมีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการเห็นหรือคิดถึงเหตุการณ์นั้น ๆ การรักษาเช่นเดียวกับโรคกลัว

6. โรควิตกกังวลจากการพลัดพรากจากพ่อแม่หรือคนรัก มักพบกับเด็กอายุ 7-8 ปี ที่ต้องแยกจากพ่อแม่คนที่รักและผูกพันหรือคิดไปล่วงหน้าถึงเรื่องนี้ ทำให้เกิดภาวะวิตกกังวลอย่างรุนแรง ขัดขวางพัฒนาการของเด็กในการเรียนรู้ การเข้าสังคม หน้าที่การงาน ผู้ป่วยจะมีอาการกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อพ่อแม่ (เช่น อุบัติเหตุ ถูกทำร้าย ถูกลักพาตัวไป) และไม่ยอมแยกจากพ่อแม่เวลาเข้านอนหรือไปโรงเรียน อาจมีอาการฝันร้ายเกี่ยวกับการพลัดพราก เมื่อต้องแยกจากพ่อแม่หรือคิดไปล่วงหน้าว่าจะต้องแยกจากกัน เด็กอาจมีอาการปวดศีรษะ ปวดท้อง เด็กทีเป็นโรคนี้อาจมีโรควิตกกังวลชนิดอื่น (เช่น โรคกลัว) ร่วมด้วย การรักษาเช่นเดียวกับโรคกลัว

7. โรควิตกกังวลจากโรคทางกาย เช่น ศีรษะได้รับบาดเจ็บ โรคติดเชื้อของสมอง เนื้องอกสมอง โรคของหูชั้นใน โรคหัวใจวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงเกิน ภาวะโลหิตจาง เป็นต้น

8. โรควิตกกังวลจากแอลกอฮอล์ สารเสพติด และยา (เช่น กาเฟอีน แอมเฟตามีน โคเคน เอฟีดรีน ทีโอฟิลลีน ยาลดน้ำหนักบางชนิด ยาแก้ซึมเศร้าบางชนิด) และจากการถอนยากล่อมประสาท

9. โรควิตกกังวลจากความเครียดหรือปัญหาชีวิต เช่น ปัญหาครอบครัว การหย่าร้าง ปัญหาการเงิน ภาวะหนี้สิน ปัญหาการทำงาน หรือความสัมพันธ์กับผู้อื่น ปัญหาสุขภาพหรือการเจ็บป่วย เป็นต้น อาจทำให้เกิดอาการวิตกกังวล ซึ่งจะทุเลาเมื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ การรักษา ควรค้นหาสาเหตุและแก้ไข อาจให้ยากล่อมประสาทควบคุมอาการ

สาเหตุ

ยังไม่ทราบแน่ชัด สันนิษฐานว่าอาจเกี่ยวกับปัจจัยด้านชีวภาพร่วมกับปัจจัยด้านจิตใจและสังคม

ปัจจัยทางชีวภาพ เชื่อว่าเกี่ยวกับความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ที่เรียกว่า สารส่งผ่านประสาท (neurotransmitters) หลายชนิด เช่น ซีโรโทนิน กรดแกมมาอะมิโนบูไทริก (gamma-aminobutyric acid/GABA) นอกจากนี้ยังเชื่อว่า อาจเกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์ซึ่งจะพบว่าเด็กที่มีพ่อแม่เป็นโรคนี้ มีโอกาสเป็นโรคนี้สูงกว่าเด็กทั่วไป

ปัจจัยด้านจิตใจและสังคม เช่น การเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่มีการคาดหวังในความสำเร็จของลูกสูง การมีพ่อแม่เป็นโรควิตกกังวล บุคลิกภาพของผู้ป่วยที่มองโลกในแง่ร้ายและประเมินความสามารถในการแก้ปัญหาของตนเองต่ำเกินจริง การเผชิญกับความเครียดหรือเหตุการณ์ร้ายแรง เป็นต้น


อาการ

ที่สำคัญ คือ ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกวิตกกังวลมากเกินกว่าเหตุอยู่เกือบตลอดเวลาแทบทุกวัน ติดต่อกันนานเกิน 6 เดือน โดยวิตกกังวลในปัญหาและเหตุการณ์ทั่ว ๆ ไปในชีวิตประจำวันพร้อมกันหลายเรื่องอย่างไร้เหตุผล และยากที่จะควบคุมไม่ให้กังวล เช่น กลัวสามีถูกทำร้าย ห่วงเรื่องการเรียนของลูก กลัวคนในบ้านจะได้รับอุบัติเหตุ กลัวว่าตนเองจะเจ็บป่วย กลัวว่าจะทำงานได้ไม่ดี เป็นต้น ผู้ป่วยจะไม่มีปัญหาร้ายแรงที่ทำให้คิดมากอันใดอันหนึ่งเป็นการเฉพาะ

ผู้ป่วยมักมีอาการนอนหลับยาก หรือนอนกระสับกระส่ายไม่เต็มที่ อาจรู้สึกอ่อนเพลียเหนื่อยล้าง่าย อยู่ไม่สุข ตื่นเต้น หงุดหงิดง่าย ขาดสมาธิ รู้สึกสมองว่างเปล่า คิดไม่ออก กล้ามเนื้อตึงเครียด (ทำให้ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา เจ็บหน้าอก ปวดหลัง ปวดข้อ ปวดเมื่อยตามตัว) มีอาการมือเท้าสั่น หรือสั่นทั้งตัว บางคนอาจมีอาการใจสั่น หายใจไม่อิ่ม รู้สึกมีก้อนจุกคอ เหงื่อออกง่าย มือเย็น ท้องไส้ปั่นป่วน คลื่นไส้ ท้องเดิน ปากแห้ง เวียนศีรษะ ร่วมด้วย

อาการมักเป็น ๆ หาย ๆ และจะรุนแรงในช่วงที่มีความเครียด


ภาวะแทรกซ้อน

ภาวะวิตกกังวลเรื้อรัง อาจทำให้ความสามารถในการเรียน การทำงาน ความสัมพันธ์กับผู้อื่นลดลง

ผู้ป่วยอาจมีโรคทางจิตประสาทอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น โรคแพนิก โรคกลัว โรคย้ำคิดย้ำทำ โรคซึมเศร้า ซึ่งเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย

ผู้ป่วยยังเสี่ยงต่อการติดแอลกอฮอล์ ติดยา หรือสารเสพติด

บางรายอาจมีโรคทางกายแทรกซ้อน เช่น ปวดศีรษะเรื้อรัง โรคลำไส้แปรปรวน เป็นต้น

นอกจากนี้ ความเครียดอาจมีผลต่อภูมิคุ้มกันและการเกิดโรคทางกายต่าง ๆ ได้

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการเป็นหลัก

การตรวจร่างกายมักไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

บางรายอาจพบอาการมือเย็น เหงื่อออก กล้ามเนื้อตึงเครียด มือสั่น ชีพจรเต้นเร็ว

เกณฑ์การวินิจฉัยโรคกังวลทั่วไป

1. มีความรู้สึกวิตกกังวลมากเกินกว่าเหตุต่อหลาย ๆ เรื่อง (เช่น การเรียน การงาน ครอบครัว สุขภาพ เป็นต้น)
 

2. ผู้ป่วยรู้สึกยากที่จะควบคุมไม่ให้กังวล
 

3. มีอาการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ อย่างน้อย 3 ใน 6 ข้อ (สำหรับเด็กมีเพียง 1 ใน 6 ข้อ)

    กระสับกระส่ายอยู่ไม่สุข หรือรู้สึกตื่นเต้น
    รู้สึกเหนื่อยหรืออ่อนล้าง่าย
    ไม่มีสมาธิ หรือรู้สึกสมองว่างเปล่าคิดไม่ออก
    หงุดหงิด
    กล้ามเนื้อตึงเครียด (เช่น ปวดศีรษะ ปวดคอ เจ็บหน้าอก ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว)
    มีปัญหาการนอน (เช่น หลับยาก หรือนอนกระสับกระส่าย)

4. อาการทั้งหมดเป็นอยู่บ่อย ๆ นานกว่า 6 เดือน

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาด้วยยากล่อมประสาท โดยให้ต่อเนื่องนาน 6-12 เดือน จะช่วยลดอาการวิตกกังวลและอาการต่าง ๆ ได้ดี

ถ้ามีอาการใจสั่น มือสั่น แพทย์จะให้โพรพราโนลอล แต่ต้องระวังผลข้างเคียง คือ อาการซึมเศร้า ชีพจรเต้นช้า คลื่นไส้

ถ้ามีภาวะซึมเศร้าหรือโรคแพนิกร่วมด้วยก็ให้การรักษาแบบโรคซึมเศร้า หรือโรคแพนิก

ผลการรักษา มักจะได้ผลดี แต่ต้องกินยาต่อเนื่องอย่างน้อย 6-12 เดือน หรือนานกว่านั้น หลังหยุดยาประมาณร้อยละ 60-80 มีโอกาสกำเริบได้อีก

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีความรู้สึกวิตกกังวล  นอนหลับยาก  รู้สึกอ่อนเพลียเหนื่อยล้าง่าย อยู่ไม่สุข ตื่นเต้น หงุดหงิดง่าย หรือ ขาดสมาธิ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรควิตกกังวล ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์  และติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน  ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา ( เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน  หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ) ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด

การป้องกัน

สำหรับโรคกังวลทั่วไป ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากโรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

หากมีอาการ ควรปรึกษาแพทย์และติดตามรักษากับแพทย์เพื่อควบคุมอาการ และอาจป้องกันไม่ให้มีอาการกำเริบมากด้วยการงดการบริโภคสุรา ยาสูบ สารกาเฟอีน (ชา กาแฟ)

ข้อแนะนำ

1. เมื่อพบผู้ป่วยมีภาวะวิตกกังวล แพทย์จะทำการซักถามประวัติและตรวจดูอาการอย่างละเอียด เพื่อแยกแยะสาเหตุ บางครั้งอาจเกิดจากโรคทางกาย แอลกอฮอล์ สารเสพติด ยา ความเครียดหรือปัญหาชีวิต หรืออาจมีโรคจิตประสาทอื่น ๆ (เช่น โรคซึมเศร้า โรคแพนิก โรคกลัว โรคย้ำคิดย้ำทำ) ร่วมด้วย ซึ่งมีวิธีการดูแลรักษาแตกต่างกันไป

2. โรคกังวลทั่วไป มักเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง ซึ่งแพทย์จะให้ยารักษาต่อเนื่องอย่างน้อย 6-12 เดือน และแนะนำผู้ป่วย ดังนี้

    ให้ความมั่นใจแก่ผู้ป่วยว่า โรคนี้ไม่มีอันตรายร้ายแรง สามารถควบคุมอาการด้วยยาที่ใช้รักษาจนสามารถดำเนินชีวิตเป็นปกติสุขได้ และควรให้กำลังใจว่าโรคนี้ไม่ได้เกิดจากความผิดของผู้ป่วย แต่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมอง
    พบแพทย์เป็นประจำตามนัด และกินยาอย่างต่อเนื่อง อย่าปรับยาหรือหยุดยาเอง
    ดูแลสุขภาพทั่วไปให้แข็งแรง ด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ และผ่อนคลายความเครียดด้วยการทำสมาธิ ฝึกโยคะ
    หลีกเลี่ยงการเสพแอลกอฮอล์ สารเสพติด สารกระตุ้น กาเฟอีน ซึ่งอาจทำให้อาการแย่ลงได้
    เมื่อมีภาวะเครียด ควรหาทางพูดคุยระบายกับญาติหรือเพื่อนสนิท



ตรวจอาการด้วยตนเอง: โรควิตกกังวล (Anxiety disorders) โรคกังวลทั่วไป (Generalized anxiety disorder/GAD) อ่านบทเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/symptom-checker

237
การดูแลรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟัน ถือเป็นเรื่องที่เราจะต้องเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ เนื่องจากเราจะต้องใช้งานช่องปากและฟันทุกวัน จึงต้องมีความจำเป็นที่จะต้องรักษาความสะอาดช่องปากและหันให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาที่อาจจะตามมาในอนาคตได้ แต่นอกจากเรื่องของความสะอาดแล้ว ในเรื่องของปัญหาต่างๆที่เกี่ยวกับช่องปากและฟัน ก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของลักษณะของฟัน ปัญหาโรคเหงือกต่างๆ ซึ่งปัญหาที่เกี่ยวกับรูปร่างหรือลักษณะของฟันนั้น สามารถแก้ไขได้ เพราะในปัจจุบันวงการทันตกรรมได้มีความก้าวหน้าในเรื่องของเทคโนโลยีมากขึ้น ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ


สำหรับใครที่มีปัญหาฟันซ้อน ฟันเก หรือฟันที่มีปัญหาของรูปร่างที่ขึ้นผิดรูปร่างทำให้มีปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการเข้ารับการจัดฟัน ซึ่งการจัดฟันนั้น หลายคนคงได้เห็นกันมาบ้างแล้ว และทราบกันดีว่า การจัดฟันสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้ทุกรูปแบบ และยังเป็นการช่วยส่งเสริมในเรื่องของความสะอาดของปากและฟันด้วย เพราะการที่เรามีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติ จะทำให้เราสามารถทำความสะอาดช่องปากและฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น การจัดฟันยังทำให้เราสามารถบดเคี้ยวอาหารได้อย่างละเอียด ไม่ทำให้ส่งผลเสียต่อร่างกายอีกด้วย

แต่หากเราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดฟันแล้ว การจัดฟันนั้นก็มีด้วยกันหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันแบบใส่เหล็กจัดฟันที่เรามักจะพบเห็นกันได้บ่อย แต่วันนี้ทางคลินิก idol Smile เราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดฟันแบบใส ที่ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่จากสหรัฐอเมริกา ที่ต้องถือว่าได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะการจัดฟันแบบใสนั้น เราสามารถใส่เครื่องมือการจัดฟันได้อย่างสะดวก เพราะเครื่องมือการจัดฟันแบบใสนั้น เป็นเครื่องมือแบบใสที่สามารถมองเห็นได้ยาก ทำให้เมื่อผู้เข้ารับการจัดฟันสวมใส่เครื่องมือแล้ว สามารถมองเห็นได้ยาก ทำให้ยิ้มสวยเป็นธรรมชาติ จึงได้รับความนิยมในหมู่ดารานักแสดง


ซึ่งทางคลินิกเราเคยพูดถึงเรื่องของการจัดฟันแบบใสไปหลายเรื่องแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดูแลรักษา ข้อดี ข้อเสียของการจัดฟันแบบใส แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของเรื่องมือการจัดฟันแบบใส ที่ต้องบอกเลยว่ามีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะถ้าหากเราดูแลรักษาเครื่องมือการจัดฟันไม่ดี ก็อาจจะทำให้ผลการรักษาเกิดการคลาดเคลื่อนได้ หรืออาจจะทำให้ผลการรักษาไม่ได้ผลเท่าทีควร ดังนั้น วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงเรื่องของการดูแลรักษาเครื่องมือการจัดฟันแบบใส เพื่อให้ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส ได้ดูแลรักษาเครื่องมืออย่างถูกวิธี เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ อย่างแรกเลย ถ้าหากเราพูดถึงเครื่องมือการจัดฟันแบบใส ทันตแพทย์จะแนะนำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันสวมใส่เครื่องมือเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 22 ชั่วโมง เพื่อให้มีผลการรักษาที่ดี

ต่อมาวิธีการดูแลรักษาเครื่องมือการจัดฟันแบบใส การล้างทำความสะอาดเครื่องมือการจัดฟันเป็นประจำทุกวัน ถือเป็นที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องมีวินัยทั้งเรื่องของการสวมใส่เครื่องมือและการทำความสะอาด ควรแปรงเบา ๆ ด้วยแปรงสีฟันขนนุ่ม เพื่อให้เครื่องมือการจัดฟันสะอาด เมื่อผู้เข้ารับการจัดฟันจะรับประทานอาหาร ผู้ควรที่จะถอดเครื่องมือการจัดฟันแบบใสออกก่อน เพื่อที่จะรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่ และไม่เป็นอันตรายต่อเครื่องมือการจัดฟันด้วย เพียงเท่านี้ผู้เข้ารับการจัดฟันก็จะสามารถมีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ มีเครื่องมือที่สะอาด เมื่อยิ้มจะได้รู้สึกมั่นใจ มีฟันที่ดูสวยงามเป็นธรรมชาติ และยังทำให้คนอื่นมองไม่ออกด้วย ว่าเรากำลังเข้ารับการจัดฟันอยู่ ทางคลินิกเราอยากให้ทุกคนหันมาดูแลรักษาความสะอาดของสุขภาพของช่องปากและฟัน ทางเรามีโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อให้ทุกคนได้หันมาสนใจการจัดฟันแบบใสเพื่อให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการมีฟันที่สวยงาม โดยการจัดฟันแบบใสที่คลินิก ราคาเริ่มที่ 49,000 บาท จากปกติ 69,000 บาท สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกได้ ทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่ให้คำแนะนำ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า คุณจะมีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติได้อย่างแน่นอน


การดูแลรักษาเครื่องมือการจัดฟันใส ให้ขาวใส มั่นใจเวลายิ้ม อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

238
เอคิว เอลิคซ์ เรซิเดนซ์ ศูนย์วิจัย (AQ Alix Residence Soonvijai)
ราคา : เริ่มต้น 3,200,000 บาท (ณ. วันเปิดตัว)

จุดเด่น
คอนโด Low-Rise เพชรบุรีตัดใหม่ 47 ใกล้ Airport Link รามคำแหง และ MRT สถานีเพชรบุรี เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

รายละเอียดโครงการคอนโดมิเนียม-โปรโมชั่น

ชื่อโครงการ : เอคิว เอลิคซ์ เรซิเดนซ์ ศูนย์วิจัย (AQ Alix Residence Soonvijai)
ดูคอนโดราคาใกล้เคียง  ดู เอคิว เอสเตท ทุกโครงการ  ดู เอคิว เอสเตท ใกล้รถไฟฟ้า
เจ้าของโครงการ : เอคิว เอสเตท
ราคา : เริ่มต้น 3,200,000 บาท (ณ. วันเปิดตัว)
ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม. : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

ลักษณะทำเล : คอนโดในเมือง
ความสูงคอนโด : Low Rise (ไม่เกิน 8 ชั้น)
ลักษณะกรรมสิทธิ์ : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
ประเภทห้องที่มี : 1 ห้องนอน
ขนาดห้องที่มี : ตั้งแต่ 27.75 ถึง 37.60 ตร.ม.
เนื้อที่ทั้งหมด : 2 งาน 72.00 ตร.ว.
จำนวนตึก : 1 อาคาร
จำนวนชั้น : 7 ชั้น
จำนวนห้อง : 66 ยูนิต
ที่จอดรถทั้งหมด : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
ค่าบำรุงส่วนกลาง : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
สาธารณูปโภค : รปภ., กล้องวงจรปิดโครงการ, ประตู Key Card
โซน : รัชดา, ห้วยขวาง, พระราม 9, เพชรบุรี
ที่ตั้งคอนโดมิเนียม : ซ.เพชรบุรีตัดใหม่ 47 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ

ขนส่งสาธารณะ : รถไฟฟ้า ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บางซื่อ - หัวลำโพง (สถานีเพชรบุรี), ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บางซื่อ - หัวลำโพง (สถานีเพชรบุรี)รถไฟฟ้าAirport Rail Link (สถานีปัจจุบัน) (สถานีรามคำแหง)

สถานที่สำคัญใกล้เคียง :
รพ.กรุงเทพ
ท็อปส์ มาร์เก็ต อาร์ซีเอ
โชว์ ดีซี
รพ.เพชรเวช
ฟอร์จูนทาวน์
เซ็นทรัล พระราม 9
มศว ประสานมิตร
 
ปีที่สร้างเสร็จ : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

คอนโดติดรถไฟฟ้า เอคิว เอลิคซ์ เรซิเดนซ์ ศูนย์วิจัย (AQ Alix Residence Soonvijai) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/condo/publictransport/

239
สุขภาพช่องปากและฟัน ถือเป็นเรื่อง ที่ต้องเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ เพราะไม่ว่าจะเพศใดหรือวัยไหนก็ต้องดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟันให้ดีอยู่เสมอ การที่เรามีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีก็จะทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย และที่สำคัญที่สุดก็คือ เราควรเข้ารับการตรวจฟันเป็นประจำอย่างน้อยปีละสองครั้ง เพื่อให้เราได้ทราบถึงปัญหาและการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพช่องปากและฟัน ถ้าหากมีปัญหาก็จะสามารถแก้ไขได้ทันเวลา ถ้าหากปล่อยไว้นานๆ อาจจะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาได้ นอกจากนี้ ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ทุกคนก็ควรเข้ารับการตรวจฟันกับทันตแพทย์ ควรได้รับคำแนะนำในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันระหว่างตั้งครรภ์


เพื่อให้ได้รับการป้องกันหรือการรักษาโรคที่ถูกต้องไม่ว่าจะเป็นโรคฟันผุ โรคเหงือกอักเสบ ซึ่งหญิงตั้งครรภ์จะต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์ตามที่จำเป็นในช่วงระยะครรภ์ที่เหมาะสมซึ่งจะหากได้รับการรักษาที่จำเป็นช้าเกินไปอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อคุณแม่และยังส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้นั่นเอง และสำหรับคนท้องที่อยู่ในระหว่างการจัดฟัน ก็ต้องได้รับคำแนะนำจากทันตแพทย์ด้วยในเรื่องของการดูแลรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟัน แต่สำหรับคนท้องที่อยากเข้ารับการจัดฟัน ทันตแพทย์อาจจะพิจารณาให้คุณแม่คลอดน้องออกมาก่อนเพราะการจัดฟันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน และคุณแม่บางท่านอาจจะรู้สึกอึดอัดหรือไม่สะดวก เนื่องจากในระหว่างตั้งครรภ์นั้นจะต้องดูแลรักษาสุขภาพให้มากเป็นพิเศษอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่แต่ละเคสด้วย เพราะถ้าหากมีความจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการจัดฟัน ก็ควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา


แต่สำหรับคุณแม่ที่อยากจะเข้ารับการจัดฟันแบบใส ก็ต้องปรึกษาทันตแพทย์ด้วย ในเรื่องของการวางแผนการรักษา และประเมินช่องปากเบื้องต้น แต่คุณแม่หลายท่านอาจจะมีความกังวลในเรื่องของการสวมใส่เครื่องมือว่า ถ้าหากเข้ารับการจัดฟันแบบใสขณะตั้งครรภ์ การสวมใส่เครื่องมือจะมีผลต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง ซึ่งวันนี้ทางคลินิกเราจะมาตอบปัญหาในเรื่องของเครื่องมือการจัดฟันแบบใสกับคุณแม่ตั้งครรภ์ ว่าจะมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์หรือไม่ หลายคนคงทราบดีอยู่แล้วว่า เครื่องมือการจัดฟันแบบใสนั้น มีความใส และสามารถถอดออกได้ขณะรับประทานอาหารและทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันสามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย


ซึ่งถ้าคุณแม่ที่ตั้งครรภ์จะเข้ารับการจัดฟันแบบใส ก็จะสามารถรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่ โดยไม่มีอุปสรรคในเรื่องของการรับประทานอาหารเลย ต่อมาในเรื่องของการทำความสะอาดช่องปากและฟัน ซึ่งแน่นอนว่า คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรที่จะดูแลเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันให้ดี เพราะการที่คุณแม่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ไม่มีดีหรือมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก ก็อาจจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายด้วย ดังนั้นการจัดฟันแบบใส ก็สามารถตอบโจทย์และทำให้คุณแม่สามารถทำความสะอาดช่องปากและฟันได้อย่างเต็มที่

ต่อมาในเรื่องของการสวมใส่เครื่องมือการจัดฟัน ที่คุณแม่ที่ตั้งครรภ์หลายคน มีความกังวลว่า การสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบใสนั้น จะส่งผลต่อทารกในครรภ์หรือไม่ ต้องบอกเลยว่า เครื่องมือการจัดฟันแบบใส เราผลิตมาจากพลาสติกที่มีความใส สำหรับใช้งานด้านการแพทย์และไม่มีพิษหรือสารเคมีใดๆ เพราะฉะนั้น คุณแม่ตั้งครรภ์ สามารถสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบใสได้ระหว่างการตั้งครรภ์ แต่ถ้าหากมีความกังวลก็สามารถปรึกษาพูดคุยกับทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญได้ ทางคลินิกยินดีให้คำปรึกษาในเรื่องของการเข้ารับการจัดฟันแบบใส โดยทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญที่จะช่วยไขข้อสงสัยได้อย่างถูกต้อง และถ้าหากสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกทางเรามีโปรโมชั่นพิเศษที่จะช่วยให้คุณมีรอยยิ้มที่สวยงามและสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี จากราคาปกติ 69,000 บาท ลดเหลือ 49,000 บาทเท่านั้น



ขณะตั้งครรภ์ สามารถเข้ารับการจัดฟันใสได้หรือไม่ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

240
โนเกีย Nokia T10 (4GB/64GB)
Nokia T10 แท็บเล็ตขนาดกะทัดรัด หน้าจอ IPS LCD ขนาด 8 นิ้ว ความจุแบตเตอรี่ 5,250 mAh

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น          โนเกีย Nokia T10 (4GB/64GB)
   ราคากลาง       5,990 บาท
   จำนวนซิม       1 ซิม
   สี                 Blue

   ความถี่-เครือข่าย
2G (850, 900, 1800, 1900)
3G (1, 3, 5, 7, 8, 20, 28, 38, 40;)
4G (1, 5, 8;)

   ขนาด-น้ำหนัก                  ยาว 123.2 x กว้าง 208 x หนา 9 มม., น้ำหนัก 375 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน-ROM    64 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด   -
   แบตเตอรี่                       ความจุแบต 5,250 mAh

ชนิดจอ
   ชนิดจอ                    IPS LCD
   ขนาด-ความละเอียด     8 นิ้ว, 800 x 1,280 px

   รายละเอียดอื่น
มีฟีเจอร์ โหมดการปลดล็อกด้วยใบหน้าขณะสวมหน้ากากอนามัย, การปลดล็อกด้วยใบหน้า
มีระบบเซนเซอร์ Accelerometer (G-Sensor), Ambient light sensor, Proximity sensor

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                  กล้องหลัง (8 Mpx), กล้องหน้า (2 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                             Auto Focus, Flash

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)           Unisoc T606
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)   Mali-G57 MP1
   หน่วยความจำ (RAM)              4 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก              USB (Type-C 2.0), Bluetooth (5.0), Wi-Fi (802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5.0 GHz dual-band))
   ระบบรับส่งข้อความ                 SMS, MMS, EMAIL
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต           3G, GPRS, EDGE, WiFi, 4G
   ระบบ GPS                          GPS+GLONASS+GALILEO, AGPS


แท็บเล็ต 2024: โนเกีย Nokia T10 (4GB/64GB) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/tablet/

หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 19

































































รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า