โพสประกาศฟรี ลงประกาศง่าย รองรับ seo

 

หลักการออกแบบลายเซ็นที่ถูกต้อง
หลักการออกแบบลายเซ็นต์มงคล โดยอาจารย์ ติณณ์ ให้ความสำคัญกับอักษรนำ 100% ที่บ่งบอกตัวตนชัดเจนและความเป็นไปในปัจจุบัน ตัวอักษรตามที่มีความสำคัญต่อชีวิต การเลือกลายเซ็นภาษาไทย หรือลายเซ็นภาษาอังกฤษ ถึงจะดีที่สุด ขนาดตัวอักษรนำ ตัวอักษรตาม วิธีการเขียนและจังหวะของการตวัดลายเส้นโค้งและเส้นตรง มีผลต่อการตัดสินใจและพลังในตัวตน ลายเซ็นต์ สามารถบ่งบอกถึง สถานะในปัจจุบัน ชีวิตความเป็นอยู่ การเงิน การงาน ความรักและสุขภาพโชคลาภ สามารถออกแบบเพื่อเน้นย้ำเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ให้ความสำคัญมากที่สุดก็ย่อมได้ และให้เรียงลำดับความสำคัญลองลงมา ทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดลับที่ไม่มีใครเคยบอก เช่น ให้ออกแบบลายเซ็นเงินล้าน ที่เน้นย้ำเรื่องการเงิน ก็จะมีการออกแบบให้มีลักษณ์เฉพาะที่บกบอกถึงด้านการเงินเป็นพิเศษ เป็นต้น

ด้านความเชื่อ อาจารย์ผู้รู้หลายท่านต่างก็มีประสบการณ์จากการเก็บสถิติ การวิเคราะห์ การสังเกต การศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง ทั้งจากตำราที่เคยมีการรวบรวมเนื้อหาความรู้ที่เกี่ยวกับศาตร์ด้านลายเซ็นต์ ต่างก็ออกมาให้คำแนะนำ ให้ความรู้ในด้านศาสตร์ลายเซ็นต์ต่างๆนาๆและได้ออกมากำหนดกฎเกณฑ์หรือหลักการของตัวเองที่ได้ศึกษาเรียนรู้มา เช่นว่า การเซ็นต้องเซ็นแต่ชื่อ ห้ามเซ็นนามสกุล หรือ การเซ็นต้องเซ็นแบบไม่ให้ใครอ่านออก หรือ การเซ็นแบบเชิงสัญลักษณ์มงคลจะดี ที่ดูแล้วไม่เหมือนลายเซ็น การกำหนดองศาการเอียงของการเซ็น ต้องกี่องศาถึงจะดี การเซ็นตรงตามแนวฐานหรือเซ็นเอียงเฉียงขึ้นไปถึงจะดี การขีดเส้นใต้เป็นฐานลายเซ็นไม่ดี หรือลายเซ็นห้ามใส่จุดในตำแหน่งท้ายของลายเซ็น หรือการจบลายเซ็นด้วยตัวอักษรหรือสัญลักษณ์พิเศษ หรือการบัญญัติศัพท์พิเศษเฉพาะตนขึ้นมาว่า ต้องมีสัญลักษณ์นี้ถึงจะดี ควรใช้ ลายเซ็นภาษาไทย หรือลายเซ็นภาษาอังกฤษ ลายเซ็นภาษาไหนดีกว่ากัน หรือ ลายเซ็นต้องมีหัวมังกร และหางเป็นมังกือ ต้องมีเสาค้ำชีวิตถึงจะดี หรือ ลายเซ็นต้องห้ามมีเส้นตัดกันจะทำให้ชีวิตพบอุปสรรค กำหนดข้อห้ามขึ้นมาว่า เซ็นแบบนั้นแบบนี้ดี เซ็นแบบนี้ไม่ดี เซ็นแบบนี้มีความหมายอย่างไร ต้องมีอักษรนำแบบนี้ถึงจะดี ห้ามเซ็นสัญลักษณ์นี้ หรือเซ็นแบบไม่ยกมือถึงจะดี ต่างก็เอ็นเอียงไปในทางต่างคนต่างบัญญัติขึ้นมาถึงแม้จะพยายามกล่าวอ้างถึงตำราที่ได้ศึกษามา หรือจากการเก็บสถิติของตัวเอง และจากประสบการณ์ ต่างๆ นานา เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือกันทั้งนั้น อยู่ที่ดุลยวินิจและใครจะเชื่อของแต่ละบุคคล

และที่หนักไปกว่านั้นก็คือการยกเอาหลักวิชาโหราศาสตร์ ศาสตร์หมอดูเข้ามาผสมผสานในการออกแบบลายเซ็น ทั้งศาสตร์ไทย จีน ฝรั่ง ศาสตร์วิชาลับเฉพาะที่ตนได้เรียนรู้มา อ.ท่านไหนท่านจะยกเอาศาตร์อะไรก็แล้วภูมิปัญญาและความเชื่อของแต่ละท่าน และยิ่งไปกว่านั้นคือเริ่มมีการสร้างความน่าเชื่อถือให้ตนเองหรือเพื่อเพิ่มราคาค่าบริการให้สูงขึ้น มีการแนะนำว่าก่อนออกแบบลายเซ็นต้องดูดวง ต้องดูพื้นดวง ต้องผูกดวงชะตาก่อนถึงจะออกแบบลายเซ็นได้ ชื่อไม่เป็นมงคลต้องเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล ไปไกลถึงขนาดเปลี่ยนวงศ์สกุลเลยทีเดียว ถึงจะเป็นมงคลสูงสุด เสียค่าบริการเพิ่มขึ้นไปอีกกว่าจะได้ลายเซ็นเป็นของตัวเอง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลยวินิจและความเชื่อของแต่ละบุคคลบางท่านพื้นฐานการออกแบบลายเซ็น วิเคราะห์ลายเซ็น หรือการออกแบบลายเซ็น ยังไม่เชียวชาญพอ ก็ยังมีรับงานออกแบบลายเซ็น มีทั้งกล่าวอ้างถึงตัวเองเป็นต้นแบบ เป็นหมอดู เรียนมา ประสบการณ์สูง ยกตัวเองว่าเป็นอ.ผู้รู้ลึกรู้จริงด้านศาตร์ลายเซ็น หรือมีประสบการณ์มากกว่าและเป็นผู้เดียวที่ออกแบบลายเซ็นถูกหลักมงคลที่สุดแบบนี้ก็มี

บางท่านออกแบบลายเซ็นมาดูผิวเผินก็ดูดี แต่ถ้าดูดีๆ มีลักษณะของเส้นสายลายเซ็นที่ไม่เป็นมงคลอยูในลายเซ็น หรือบางท่านออกแบบโดยใช้โปรแกรมตกแต่งปรับเส้นสายลายเซ็นซะจนเซ็นไม่ได้จริง ใช้ไม่ได้จริง ผู้ที่นำลายเซ็นไปใช้ถึงพยายามฝึกเซ็นเท่าไหร่ก็ไม่สามารถเซ็นได้ พยายามฝืนใช้ลายเซ็นถึงเซ็นออกมาได้ก็ผิดเพี้ยนไปกันใหญ่ สุดท้ายต้องมาปรับลายเซ็นเองกลายเป็นลายเซ็นในแบบของตัวเองเพื่อให้ตัวเองเซ็นได้ถนัดแบบนี้ก็จะไม่เป็นมงคลแน่ คงเสียเงินฟรีเสียเวลาเปล่า หลายท่านที่ไม่รู้ก็เชื่อไปตามๆ กัน ทำให้ลายเซ็นหลายๆ ท่านที่ไปเชื่อแบบผิดๆ กลายเป็นลายเซ็นที่ส่งผลกระทบกับชีวิตโดยไม่รู้ตัว ขาดเอกลักษณ์เฉพาะตัวแต่กลับได้ลายเซ็นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะอาจารย์แต่ละท่านไปแทน ขาดความเป็นตัวของตัวเอง ยิ่งในยุคปัจจุบันก็เริ่มมีการใช้สัญลักษณ์ เข้ามารวมไว้ในลายเซ็น มีทั้งเลข มีทั้งยันต์มงคล มีทั้งสัญลักษณ์ ไทย จีน ฝรั่ง ผสมปนเปกันไปแล้วแต่ว่าอาจารย์ท่านไหนจะคิดค้นบัญญัติขึ้นหรือมีความเชื่อเช่นไรดูหลักคิดแล้วก็ต่างคนต่างเชื่อในศาตร์ของตัวเองที่ได้ศึกษากันมาต้องมีเซ็นแบบนี้ถึงจะดี เซ็นแบบนี้ไม่ดี ท่านนี้บอกดี ท่านนี้บอกไม่ดี ถูกบ้างผิดบ้างสับสนวุ่นวายไปหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่มีหลายคนไปมีความเชื่อผิดๆ แบบนั้น เพราะเขาเล่ามา เห็นเขาบอกว่า ไปอ่านเจอมา ฯ สุดท้ายแล้วหาความชัดเจนไม่ได้ อยู่ที่ใครจะเชื่อทางไหน

ลายเซ็นที่ถูกหลักมงคลศาตร์ด้านลายเซ็นมงคล คืออะไร?“ลายเซ็นที่ดีในความคิดเห็นส่วนตัว ของ อ.ติณณ์ คือ ลายเซ็นที่ดูแล้วคือลายเซ็นจริงๆ เมื่อเห็นแล้วรู้สึกถึงพลังบวกที่แผ่ออกมาอย่างชัดเจน เห็นแล้วชอบ ประทับใจในความสวยงามของลายเซ็นมีเอกลักษณ์ มีความโดดเด่นมีสัดส่วนของลายเซ็นที่ถูกลักษณะความเป็นมงคล ขนาดของลายเซ็น ความสั้นยาว ความเอียงองศา ลงตัวสวยงาม มีความต่อเนื่องของเส้นสายลายเซ็น มีจังหวะของการตวัดเส้นสายลายเซ็นที่พลิ้วสวยงามต่อเนื่องมีเส้นคมชัดมีหนามีบาง มีเส้นหนักเบาในเส้นสายลายเซ็นมีเส้นโค้งมนสวยและขีดเส้นตรงดีโดยไม่มีเส้นสายตัดกันในตำแหน่งสำคัญและต้องเป็นลายเซ็นในแบบเฉพาะบุคคลที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร” จึงจะถูกต้องตามหลักมงคลศาสตร์ลายเซ็นที่แท้จริง


อ.ติณณ์ มีเคล็ดลับแนะนำก่อนเลือกออกแบบลายเซ็นกับใครหรือกับ อ.ท่านไหน ให้พิจารณาทำดังนี้

• ก่อนให้ออกแบบลายเซ็นให้ส่งลายเซ็น หรือลายมือเขียน ให้วิเคราะห์ ก่อนว่าสามารถวิเคราะห์ลายเซ็นของท่านได้จริงหรือไม่ มีองค์ความรู้จริงหรือไม่ สามารถวิเคราะห์ได้ถูกต้องและมีความแม่นยำได้กี่เปอร์เซ็น ถ้าวิเคราะห์แล้วไม่ตรงเลย มีความคลาดเคลื่อนหรือไม่มีความใกล้เคียงเลย ให้สันนิษฐานได้ว่ามั่วแล้ว ให้ปฏิเสธหรือหยุดการติดต่อทันที ห้ามใช้บริการเด็ดขาด
• สามารถโทรติดต่อสอบถามได้ หากมีคำถามหรือต้องการพูดคุยกับ อ.ผู้ออกแบบลายเซ็นได้โดยตรง เพื่อความมั่นใจ ถ้าโทรแล้วไม่ติด โทรแล้วไม่รับ โทรแล้วสัญญานตัด โทรแล้วพูดจาไม่ดี หรือพูดคุยแบบใช้อารมณ์ หรือฟังดูแล้วจิตใจไม่ดี อย่าเด็ดขาด บางคนใช้ชื่อรับงานหลายชื่อแต่เป็นคนๆ เดียวกัน หรือ เปลี่ยนทั้งชื่อและนามสกุลมาหลายครั้ง แสดงว่ามีอะไรแอบแฝงหรือมีเจตนาไม่ดี หรือเคยมีภาพลักษณ์ไม่ดีจึงเปลี่ยนชื่อรับงานไปเรื่อยๆ ต้องระวัง ห้ามใช้บริการเด็ดขาด
• ขอดูตัวอย่างผลงาน แบบลายเซ็นแบบต่างๆ เพื่อมาพิจารณาตัดสินใจว่าเราชอบในผลงานการออกแบบลายเซ็นหรือสไตล์การออกแบบของ อ.ท่านนี้หรือไม่ โดยเฉพาะให้ดูว่าการออกแบบลายเซ็นว่าเป็นการเซ็นด้วยมือหรือไม่ ถ้าดูแล้วเป็นการออกแบบโดยใช้โปรแกรมช่วยออกแบบโดยตกแต่งเส้นสายลายเซ็นให้ออกมาดูดี สวยเกินจริง หรือถ้าไม่มั่นใจให้ อ.ผู้ออกแบบเซ็นด้วยปากกาปกติ ให้ดูก่อนว่าเซ็นออกมาได้จริงและสวยงามตามแบบหรือไม่ ถ้าไม่เหมือนตามแบบ อันนี้ให้สัญนิฐานว่าไม่สามารถเซ็นได้ด้วยมือจริงๆ หรือใช้ได้จริง อย่าเลือกใช้บริการเด็ดขาด
• ให้ดูผลงานที่ผ่านมา การให้บริการหรือการตอบรับของผู้ที่เคยใช้บริการ โดยการอ่านจากรีวิว (ต้องเป็นรีวิวจริงๆ จากผู้ที่เคยใช้บริการจริง ไม่ใช่พวกอวตารหรือเป็นการรีวิวโดยเจ้าของเพจเอง หรือเป็นการจ้างรีวิวมา สามารถกดดูโปรไฟล์เพื่อรีเช็คได้ว่าเคยใช้บริการจริงมีตัวตนจริง
• ให้พิจารณาราคาค่าครู ค่าบริการ ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ หากค่าบริการสูงจนเกินไป โดยอ้างหลักการต่างๆ นานาชวนเชื่อ อย่าหลงกลเล่ห์อุบายของพวกมิจฉาชีพที่มาในคาบของนักสร้างภาพ เพื่อหลอกลวงให้หลงเชื่อและเก็บค่าครูสูงเกินจริง
• อย่าพึ่งโอนเงินค่าครูเด็ดขาด หรือโดยเร่งรัดให้โอนเงิน ถ้าเราไม่แน่ใจหรือยังไม่ได้โทรปรึกษา อ.ท่านอื่นที่เราสนใจหรือเปรียบเทียบกับ อ.ท่านอื่นๆ ก่อนตัดสินใจโอนเงิน เราจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่า เราควรใช้เลือกใช้บริการกับ อ.ท่านไหนที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด
• อย่าหลงเชื่อคำโฆษณา คำกล่าวอ้างหรืออวดอ้างตัวเอง ว่าเป็นผู้รู้ลึกรู้จริงที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์ หรือได้รับการยอมรับใดๆ เลย เพื่อให้เราหลงเชื่อหรือคล้อยตามจนหลงผิดหรือเข้าใจผิดได้ หรืออ้างว่ามีความรู้ลึกรู้จริงแต่จริงๆ แล้วไม่รู้จริงหรือประสบการณ์ไม่มีหรือมีแต่ยังไปไม่ถึงไหน แต่มักอวดอ้าง โฆษณาชวนเชื่อตลอดเวลา ควรต้องระวัง อย่าเลือกใช้บริการเด็ดขาด
• การลงบทความเนื้อหาหรือการเขียนบทความให้ความรู้ต่างๆ ในเรื่องศาสตร์ลายเซ็นมงคล เพื่อแสดงภูมิปัญญาให้คนทั่วไปรู้ว่าท่านเป็นผู้ที่มีความรู้จริงๆ ถ้าองค์ความรู้นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องถือว่าดีและควรชื่นชมน่ายกย่อง แต่ถ้าเป็นความรู้ที่ผิดๆ แบบนี้ก็ไม่ควรยึดถือและให้ความเชื่อถือเด็ดขาด ยิ่งถ้าไม่มีพื้นฐานการออกแบบลายเซ็นด้วย ก็ควรหลีกเลี่ยงอย่าเผอใช้บริการเด็ดขาด
• จงใช้สัญชาตญาณ ใช้สติปัญญาของตัวเองในการเลือกใช้บริการออกแบบลายเซ็น ถ้าได้พูดคุยหรือติดต่อผ่านข้อความแล้ว ที่แสดงออกถึงอุปนิสัยใจคอ หรือแสดงถ้วยคำหรือคำพูดที่มีพื้นฐานจิตใจไม่ดี หรือเข้าไปอ่านเรื่องราวในเพจหรือบทความต่างๆ มีแต่อวดอ้างตัวเองเกินจริง หรือ อ่านแล้วรู้สึกถึงความเคลียด ความกดดัน ของเจ้าของบทความ หรือ พิจารณาแล้วผู้ออกแบบมีจิตใจไม่ปกติ มีสติไม่ดี อารมณ์แปรปรวณ มักพูดให้ร้ายคนอื่น ยกตัวเองข่มท่านตลอดเวลา ไม่ควรติดต่อใช้บริการเด็ดขาด

ให้ระวังบุคคลท่านหนึ่งทำตัวเป็นมิจฉาชีพ แฝงตัวมาเป็น อ.รับออกแบบลายเซ็น หากินกับความเชื่อมายาวนาน ทำให้คนหลงผิดหลอกให้โอนเงินในราคาสูงเกินจริง นะครับ



#ออกแบบลายเซ็น สวยๆ และให้เป็นมงคงแบบ ฟรี ๆ ด้วยหลักง่าย ๆ 8 ข้อ by อ.ติณณ์

• พยัญชนะอักษรตัวแรกของชื่อหรือเรียกว่าอักษรประธาน ให้เน้นพยัญชนะตัวแรกของชื่อและนามสกุลให้ใหญ่กว่าอักษรตามหรืออักษรบริวาร เพราะจะหมายถึงพลังอำนาจและบารมี การยอมรับนับถือ ต้องออกแบบให้มีลักษณะที่เป็นมงคลสวยงามมากที่สุด
• พยัญชนะอักษรตาม หรือตำแหน่งบริวาร ให้ปรับขนาดเล็กลงให้ที่มีสัดส่วน ½ หรือ 1/3 ก็ได้ หรือบางท่านอาจจะปรับให้เล็กลงมากกว่านี้ก็ได้ แต่ห้ามใหญ่กว่าเด็ดขาด เพราะจะหมายถึงพลังอำนาจ แรงสนับสนุนของ บริการวาร ผู้ตาม และคนใกล้ตัว
• การเซ็นชื่ออักษรประธาน กับอักษรบริวาร สามารถเลือกได้ว่าจะเซ็นติดกันหรือไม่ติดกันก็ได้ เพราะหมายถึงความเกี่ยวพันระหว่างตัวเรากับบริวาร การเว้นระยะห่างไม่ใกล้ชิดจนเกินไป หรือเลือกที่จะผูกพันใกล้ชิดติดกันไปเลย ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องเกี่ยวข้องเกี่ยวพันกันตลอดเวลา ซึ่งก็จะมีข้อดีแตกต่างกันไป
• ลายเซ็นชื่อและนามสกุล ไม่ควรเซ็นติดกัน หรือชิดกันจนเกินไป ควรเว้นช่องไฟให้พอดีสวยงามตามสัดส่วนขนาดของลายเซ็น อย่างน้อย 1 ช่องตัวอักษร ไม่ชิดและไม่ห่างจนเกินไป เพราะ ชื่อ คือ ตัวเรา งาน บริวาร ส่วน นามสกุล คือครอบครัว ญาติพี่น้อง
• ชื่อและนามสกุลที่มีสระ วรรณยุกต์ทั้งหมดในอักษรไทย ควรพิจารณาเรื่องการออกแบบลายเซ็นให้เป็นคุณต่อเรา ให้มากที่สุด ซึ่งมีหลักง่ายๆ ดังนี้คือ
  5.1 อย่าลากตวัดมาโดนอักษรประธานตัวแรกทั้งของชื่อและนามสกุล
  5.2 สระ วรรณยุกต์ที่อยู่หน้าอักษรประธาน อยู่บนหัวอักษรประธาน สามารถเลือกได้ว่าจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ ถ้าเลือกไม่ใส่ก็จะตัดเรื่องอุปสรรค ความคิดออกไป ถ้าเลือกที่จะใส่ ควรออกแบบให้เป็นมงคลต่อเรามากที่สุด
  5.3 อย่าออกแบบให้มีขนาดใหญ่จนเกินไป เพราะจะกลายเป็นอุปสรรค ไม่ส่งผลดีต่อเรา
• การเลือกออกแบบลายเซ็นชื่ออย่างเดียว (ไม่มีนามสกุล) หรือจะเลือกออกแบบชื่อ พร้อมนามสกุล ควรเลือกแบบไหน ในความเห็นของ อ.ติณณ์ ควรเลือกออกแบบชื่อพร้อมนามสกุล ถือว่าเป็นมงคลดีที่สุด แต่เราสามารถเลือกได้ว่าจะเซ็นเฉพาะชื่ออย่างเดียว หรือ เลือกเซ็นชื่อพร้อมนามสกุล อ.ติณณ์มีข้อแนะนำคือ ถ้าเป็นเรื่องทั่วไป สามารถเลือกเซ็นแต่ชื่อได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องสำคัญ ควรเซ็นชื่อ พร้อมนามสกุล ถือว่าเป็นมงคลสูงสุดครับ
• การออกแบบลายเซ็น สามารถออกแบบลายเซ็นที่เป็น ลายเซ็นติดกันแบบไม่ยกมือหรือแบบลายเซ็นที่ยกมือได้ ไม่ได้มีข้อห้ามใดๆ แต่จะขึ้นอยู่ที่การออกแบบลายเซ็น การยกมือ การเชื่อมต่ออักษรลายเซ็นให้ดูสวยงามและเป็นมงคล กรณีเซ็นติดกันแบบไม่ยกมือมีข้อควรระวัง การเซ็นติดกันมีข้อดีคือความต่อเนื่อง ความราบรื่น ปิดช่องโอกาสไม่รั่วไหล แต่ถ้าเซ็นติดกันแบบไม่ยกมือแล้วมีเส้นตวัดเชื่อมโยงลายเซ็นที่กลายเป็นลักษณะไม่เป็นมงค ก็เป็นอุปสรรคหรือสร้างปัญหาให้กับเจ้าของลายเซ็นได้เช่นกัน
• การขีดเส้นฐานลายเซ็น สามารถเลือกที่จะขีดหรือไม่ขีดก็ได้ เพราะเป็นเส้นเสริมเข้ามาในลายเซ็น ถ้ามีเส้นฐาน ก็หมายถึงการตอกย้ำความมั่นใจในตัวเรา หรือถ้าไม่มีก็ไม่ได้หมายถึงเราไม่มีความมั่นใจ เพราะในลายเซ็นมีความเป็นมงคลครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว
  และจากประสบการณ์ อ.ติณณ์ การมีเส้นฐานถือเป็นเส้นเสริมความมั่นคงในชีวิต เป็นเส้นอุปถัมภ์ ป้องกันไม่ให้ชีวิตเราตกต่ำ และถ้าเป็นเส้นฐานที่มีลักษณะเฉียงขึ้น ก็จะยิ่งส่งเสริมพลังชีวิตและความก้าวหน้าให้แก่เรา นั่นเอง

น้ำตาลแบบไหนคือ “น้ำตาลทรายแดง” กันแน่?

น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายสีทอง น้ำตาลทรายสีรำ น้ำตาลโอวทึ้ง น้ำตาลอ้อย น้ำตาลรำ



  สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ผู้เขียนมีบทความที่จะช่วยไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ “น้ำตาลทรายแดง” มาแบ่งปันให้ผู้อ่านทุกท่านกันนะครับ

  ผู้เขียนได้ทดลองสอบถามเพื่อนๆของผู้เขียนเกี่ยวกับน้ำตาลทรายแดงมาแล้วหลายคน ว่าเวลาพูดถึงน้ำตาลทรายแดงแต่ละคนคิดถึงน้ำตาลแบบไหน สรุปคือได้คำตอบเป็น 2 คำตอบที่ต่างกันอย่างชัดเจน คำตอบแรกที่ได้คือน้ำตาลที่มีเกล็ดใหญ่คล้ายๆน้ำตาลทรายขาวแต่สีจะออกไปทางตุ่นๆสีนำ้ตาลมากกว่า กับคำตอบที่ 2 คือน้ำตาลที่กินกับเฉาก๊วย

  ซึ่งคำตอบที่ถูกต้องนั้นก็คือ… น้ำตาลทั้ง 2 ชนิดเรียกว่า “น้ำตาลทรายแดง” ทั้งคู่ !!! อ้าว…แล้วเราแยกกันอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดเวลาต้องไปหาซื้อ?

  จากที่ผู้เขียนตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมคนถึงเรียนน้ำตาลทรายสีน้ำตาลว่าน้ำตาลทรายแดง จึงได้ไปสอบถามกับคุณครูสอนภาษาไทยท่านหนึ่ง และได้คำตอบว่า จริงๆแล้วคำว่าแดงนั้นอาจไม่ได้หมายถึงสีแดงแบบที่เราเข้าใจกันแบบตรงๆ แต่เป็นการเรียกเพื่อขยายให้รู้ว่าเป็นน้ำตาลที่มีลักษณะสีเข้ม นี่อาจเป็นเหตุผลข้อหนึ่งที่น้ำตาลทั้ง 2 แบบต่างถูกเรียกว่า “น้ำตาลทรายแดง” แต่ถ้าเราสังเกตุน้ำตาลที่วางขายในซุปเปอร์มาร์เก็ต น้ำตาลที่กินกับเฉาก๊วยจะถูกกำกับไว้ว่าคือน้ำตาลทรายแดง แต่ในความเข้าใจของคนทั่วไป น้ำตาลทั้ง2แบบถูกเรียกว่าน้ำตาลทรายแดงเหมือนกัน

  น้ำตาลทั้ง 2 ประเภทมีข้อแตกต่างที่ค่อนข้างชัดเจน ผู้เขียนจึงอยากแนะนำให้ผู้อ่านแยกแยะน้ำตาลทั้ง 2 ประเภทตามลักษณะเฉพาะและจุดประสงค์การนำไปใช้จะสามารถแยกแยะได้ชัดเจนมากกว่า



  น้ำตาลทรายแดงแบบแรกที่มีลักษณะเป็นเกล็ดคล้ายน้ำตาลทรายขาวแต่มีสีออกน้ำตาลตุ่นๆ อาจถูกเรียกว่า น้ำตาลทรายสีทอง น้ำตาลทรายสีรำ Gold Sugar หรือ Natural Cane Sugar น้ำตาลชนิดนี้คือน้ำตาลที่ผลิตจากอ้อยเหมือนน้ำตาลทรายขาว แต่ผ่านขั้นตอนการถูกทำให้บริสุทธิ์แค่บางส่วน ไม่ได้ผ่านขั้นตอนการกรองอย่างละเอียดเท่าน้ำตาลทรายขาว ทำให้ยังมีสิ่งเจือปนจากน้ำอ้อยอยู่ มีค่าความเป็นธรรมชาติและค่าสีที่สูงกว่าน้ำตาลทรายขาว แต่ค่าความหวานจะเข้มข้นน้อยกว่าน้ำตาลทรายขาวทำให้มีรสชาติหวานน้อยกว่า เมื่อเทียบกับน้ำตาลทรายแดงชนิดที่กินกับเฉาก๊วย(โอวทึ้ง) กลิ่นจะแรงน้อยกว่า เกล็ดน้ำตาลโดยทั่วไปจะมีความใหญ่กว่า และมีความชื้นในน้ำตาลน้อยกว่าโอวทึ้ง น้ำตาลทรายแดงชนิดนี้ นิยมนำไปใช้ในการปรุงอาหารทั่วไป ใช้ทำเครื่องดื่มชงต่างๆ ขนมไทย น้ำเต้าหู้ เชื่อมผลไม้ หรือใช้แทนน้ำตาลทรายขาว



  น้ำตาลทรายแดงแบบที่2 หรือที่เรียกว่า “โอวทึ้ง” และมีการเรียกไปชื่ออื่นๆอีกเช่น น้ำตาลอ้อย น้ำตาลรำ Brown Sugar โดยลักษณะมีความเป็นผงละเอียดคล้ายทรายละเอียด มีความชื้นในตัวน้ำตาลมากบางครั้งอาจจับเป็นก้อน มีทั้งแบบสีน้ำตาลอ่อนและสีน้ำตาลเข้ม ผลิตมาจากอ้อยเช่นเดียวกับน้ำตาลทรายขาว แต่ผ่านขั้นตอนการทำให้บริสุทธิ์น้อยกว่า ผ่านการปั่นให้เป็นผงหยาบแทนการปั่นให้เป็นผลึก มีกลิ่นหอมเฉพาะ รสชาติหวานกลมกล่อม มีค่าความเป็นธรรมชาติและค่าสีสูง ด้วยรสชาติ สัมผัส กลิ่น สี ที่มีความเฉพาะตัวจึงมักถูกนำไปใช้ในอาหารที่ต้องการความหอมและสีของโอวทึ้ง เช่น เฉาก๊วย คุกกี้นิ่ม บราวนี่ ใช้ต้มกับไข่มุกสำหรับชานมไข่มุก โรยหน้าขนมหวานและเครื่องดื่ม เต้าฮวยน้ำขิง

  นอกจากนี้ยังมีน้ำตาลที่หน้าตาเหมือนน้ำตาลทรายแดงแบบเกล็ดที่เป็นการเคลือบคาราเมลบนน้ำตาลทรายขาวอีกด้วย ก็จะได้ความหวานของน้ำตาลทรายขาวและความหอมของคาราเมล



จบแล้วครับสำหรับบทความเกี่ยวกับน้ำตาลทรายแดง บทความหน้าจะนำข้อมูลเกี่ยวกับน้ำตาลและอาหารอะไรมาแบ่งปันกันอีกโปรดติดตามนะครับ ขอบคุณครับ