หากคุณเป็นมือใหม่ที่อยากสอยกระเป๋าแบรนด์เนมไว้ใช้สักใบ และสนใจในแบรนด์ Christian Dior ต้องรู้เอาไว้ก่อนเลยว่ากระเป๋าแบรนดืนี้มีความนิยมสูง จึงไม่แปลกที่ของปลอมจะระบาดหนัก มีตั้งแต่เกรดทั่วไป เล่น ๆ ราคาหลักร้อย ไปจนถึงเกรดมิลเลอร์ พรีเมียมราคาแรงเกือบเท่าของจริง แน่นอนว่าในตลาดของมือสองอาจมีของเหล่านี้ปะปนอยู่ก็ได้ แต่ไม่เป็นไร เพราะวันนี้เราได้รวบรวมเทคนิคการสังเกตว่าเป็น
กระเป๋า Dior ของแท้ ไม่หวั่นแม้ราคาถูกมาฝาก เอาให้ชัวร์ก่อนสอย!
ขอขอบคุณรูปภาพจาก dior.com
กระเป๋า Dior ของแท้มือหนึ่งไม่ได้มีราคาถูกมากขนาดนั้น ด้วยกรรมวิธีการทำป้ายหนังแบบ “Heat Stamp” ที่จะอยู่ด้านในของกระเป๋า มาพร้อมกับเอกลักษณ์ความโค้งมนที่ปลายมุมด้านล่างที่ไม่ใช่แบบสี่เหลี่ยม สังเกตได้ว่าของแท้ต้นตำหรับจะมีมุมทั้ง 2 ด้านที่ตั้งฉากกันพอดี และสำหรับในรุ่นที่ผลิตก่อนช่วงปี ค.ศ. 1990 จะมีการเย็บแค่ฝีเข็มเดียวที่ด้านบนของป้ายหนังเท่านั้น แต่กระเป๋าในยุคใหม่ ๆ จะเย็บโดยรอบของทั้งหมด นี่คือหนึ่งในจุดที่ควรจะต้องสังเกตก่อนที่จะเมคชัวร์กับการซื้อกระเป๋า Dior มือสอง ว่าเป็นของแท้ในราคาถูกจริงหรือไม่
Leather label tag ในส่วนของตราประทับแผ่นหนัง คืออีกหนึ่งจุดที่ก่อนซื้อกระเป๋า Dior มือสองของแท้ต้องดู เพราะราคาถูกก็อาจจะย้อมแมว เอาเกรดมิลเลอร์มาแฝงตัวขายได้ ดังนั้นอย่าลืมสังเกตตัวอักษรที่ประทับข้อความเอาไว้ว่า “Christian Dior PARIS” และด้านล่างจะประทับคำว่า “MADE IN ITALY” (ตัวพิมพ์ใหญ่) อย่างชัดเจน แต่ยังไม่พอ เพราะสำหรับรุ่นที่ผลิตมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา จะไม่มีฐานผลิตที่ฝรั่งเศสอีกต่อไป
ดังนั้นหากความต้องการที่จะซื้อ คือรุ่นดังกล่าว อย่าลืมสังเกตตราประทับบนอุปกรณ์เสริมให้ดี เพราะจะไม่มีสิ่งใดที่บ่งบอกว่าผลิตจากประเทศฝรั่งเศส หรือ Made in France อย่างแน่นอน นอกจากนี้อีกจุดที่สำคัญคือความสะอาดสะอ้านของความเป็นระเบียบของตัวอักษร จะต้องไม่มีการเลอะของสีที่ปั๊มจนเป็นตำหนิ และต้องตั้งอยู่ในโพสิชั่นที่กลางเป๊ะโดยสมบูรณ์บนแท็กหนัง และสีของการแสตมป์จะต้องเป็นเฉดเดียว เบอร์เดียวกับอะไหล่ของกระเป๋า คือถ้าผิดเพี้ยนไปแม้แต่นิด แล้วอ้างว่าเป็นตำหนิจากโรงงานก็ให้จั่วหัวไว้ก่อนได้เลยว่าอาจจะเป็นของปลอม
Stitching อีกหนึ่งจุดของการสังเกตกระเป๋า Dior ของแท้ นอกจากราคาถูกไม่ใช่สิ่งที่ควรจะมีแล้วในมือหนึ่ง คือการตัดเย็บอันเป็นเอกลักษณ์ของกระเป๋าีท่เรียกกันว่า “Cannage Quilting” (แพทเทิร์นคานนาจ) ที่อินสไปร์มาจากเก้าอี้สานสไตล์นโปเลียนที่ 3 จากด้ายขนาดเล็ก ตัดไขว้กัน ซึ่งความเนี๊ยบ ความสม่ำเสมอ และฝีเข็มที่เท่ากันนั้นก็ถือเป็นจุดเด่นที่เลียนแบบไม่ได้
